สระแก้ว - กรมศิลป์เข้าบูรณะ “ปราสาทเขาโล้น” พบร่องรอยโครงสร้างปราสาท และวัตถุโบราณจำนวนมาก เตรียมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัด
วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปราสาทเขาโล้น ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ภายหลังกรมศิลปากร เข้ารื้อสิ่งปลูกสร้างบริเวณโดยรอบปราสาทออกเพื่อบูรณะใหม่ทั้งหมด พร้อมกับกลุ่มปราสาทสด๊อกก๊อกธม ซึ่งถูกยกระดับเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่นั้น
ล่าสุด นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้รับรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ในระดับพื้นที่ อ.ตาพระยา ได้มีการเตรียมความพร้อมในการบูรณะองค์ปราสาทเขาโล้น โดยสำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้เข้าไปดำเนินการขุดค้น และขณะนี้พบร่องรอยโครงสร้างปราสาท และวัตถุโบราณต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งในอนาคตหากบูรณะเสร็จสมบูรณ์จะถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่งของประเทศ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสระแก้ว
โดย นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา เปิดเผยว่า ทางผู้ใหญ่บ้านเจริญสุข ต.ทัพราช ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ได้ลงพื้นที่มาเพื่อดำเนินการขุดแต่งปราสาท สำหรับเตรียมการบูรณะปราสาทเขาโล้น โดยมีการจ้างแรงงานชาวบ้านเจริญสุข จำนวน 15 คน วันละ 300 บาท เพื่อไปช่วยในการขุดแต่งตามหลักวิชาการ ด้วยเงินงบประมาณที่อธิบดีกรมศิลปากรอนุมัติให้ จำนวน 700,000 บาท สำหรับการขุดแต่ง ขุดค้น และออกแบบสำหรับบูรณะองค์ปราสาท
ในระหว่างการขุดแต่งไปได้เพียง 1 อาทิตย์ พบร่องรอยโครงสร้างปราสาทเขาโล้น ปราสาทบริวาร และวัตถุโบราณจำนวนมาก ระหว่างที่ดำเนินการขุดฐานรากลงไปให้ถึงฐานรากเดิม โดยเฉพาะรูปปั้น ส่วนควบปราสาท ชิ้นส่วนต่างๆ ที่ล้มลง ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ บางชิ้นเป็นส่วนที่เคยมีการถ่ายภาพไว้ตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งเจ้าหน้าที่ศิลปากรบอกว่า เมื่อมีการบูรณะปราสาททั้งองค์ก็สามารถนำมาใส่ให้เหมือนเดิมได้ ทั้งนี้ ได้รายงานความคืบหน้าให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2561 ทางกรมศิลปากร จะสามารถของบประมาณ 2-3 ล้านบาท เพื่อบูรณะปราสาทเขาโล้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับปราสาทสด๊อกก๊อกธม ให้สมบูรณ์ทั้งองค์ ส่วนทางอำเภอตาพระยา เตรียมการนำเข้าสู่แผนพัฒนาอำเภอ สำหรับของบประมาณเพื่อมาดำเนินการบริเวณรอบนอก เช่น ถนน ห้องน้ำ ที่จอดรถ สถานที่ขายสินค้าชุมชน เพื่อพัฒนาไปพร้อมๆ กันให้บริเวณนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดสระแก้วต่อไป