ตาก - แรงงานสัญชาติพม่ายังคงทยอยแห่กลับบ้านเกิดไม่หยุด เฉพาะด่านฯ แม่สอดยอดทะลุสามหมื่นคนแล้ว ขณะที่ทางการพม่าส่งรถทหารข้ามฝั่งรับตัวเข้าศูนย์แรกรับ พร้อมรับขวัญเลี้ยงดูปูเสื่อก่อนส่งกลับภูมิลำเนาอบอุ่น
วันนี้ (5 ก.ค.) นายธนยศ ปานขาว นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก, ทีมแพทย์สนามของสาธารณสุขอำเภอแม่สอด และหน่วยกู้ชีพอำเภอแม่สอด ยังต้องเสริมกำลังเจ้าหน้าที่หลายสิบนาย ตั้งกองอำนวยการชั่วคราวที่จุดแรกรับ-คัดกรองแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ที่ยังคงนั่งรถบัสโดยสารมาจากหัวเมืองชั้นในของไทย มาลงรถที่ด่านพรมแดนแม่สอดเพื่อข้ามฝั่งกลับบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่า คสช.โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี / หัวหน้า คสช. จะใช้มาตรา 44 เพื่อชะลอการบังคับใช้พระราชกำหนดแรงงานต่างด้าวทั้ง 4 มาตรา ออกไปเป็นเวลา 6 เดือน หรือ 180 วัน แต่แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงคำสั่งดังกล่าว ต่างยังคงทยอยเดินทางกลับประเทศพม่ากันอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งหลังมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.แรงงานดังกล่าว ทำให้แรงงานพม่าเดินทางกลับบ้านเกิดผ่านชายแดนแม่สอด จ.ตาก-เมียวดี ประเทศพม่า ตั้งแต่ 23 มิ.ย.-5 ก.ค. รวมมากกว่า 3 หมื่นกว่าคนแล้ว และยังคงมีแรงงานพม่าทยอยเดินทางมาไม่หยุด
และล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา (5 ก.ค.) ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก และคาดว่าจะคงตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ส่งผลกระทบต่อแรงงานหลายคนที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางไกลเริ่มมีอาการเจ็บป่วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่สอดต้องจัดทีมแพทย์สนามไปให้บริการตรวจสุขภาพแรงงาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และปลัดอำเภอแม่สอด ได้จัดอาหารเป็นข้าวกล่อง-น้ำดื่มสะอาด มาแจกกลุ่มแรงงานให้ได้รับประทานทุกคน
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ได้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงอำเภอแม่สอด นำรถยนต์โดยสาร รถทหาร ขับข้ามชายแดนมาช่วยรับแรงงานสัญชาติพม่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทย และฝ่ายพม่าจะร่วมกันอำนวยความสะดวกขนส่งแรงงานทั้งหมดที่ล้นด่านพรมแดนแม่สอดนำไปส่งที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือแรงงานพม่า จังหวัดเมียวดี ที่ห่างจากชายแดนอำเภอแม่สอด 5 กิโลเมตร
โดยบรรยากาศที่ศูนย์แห่งนี้เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครของทางการพม่า ต่างมาช่วยกันประกอบอาหารเลี้ยงกลุ่มแรงงานทุกคน และมีการแสดงดนตรีเพื่อขับกล่อมรับขวัญแรงงานจนหายจากความเครียด ก่อนจัดให้แรงงานทั้งหมดขึ้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ของกองทัพพม่า ที่มาให้บริการนำส่งแรงงานจนถึงภูมิลำเนาทุกราย ท่ามกลางฝนที่ตกหนักเกือบตลอดทั้งวัน