บุรีรัมย์ - ผู้ใหญ่บ้านบุรีรัมย์ทำงามหน้า ตั้งวงดื่มเบียร์และเล่นการพนันไพ่กับลูกบ้าน ไพ่แต้มแพ้ไม่ยอมจ่าย ลูกบ้านสาววัย 35 ปีจะเข้าไปเคลียร์ถูกปาแก้วเบียร์ใส่ใบหน้าเลือดอาบเย็บ 11 เข็ม เศษแก้วกระเด็นถูกแขนเย็บอีก 1 เข็มสาหัส ทั้งยังข่มขู่จะเอาชีวิต โร่นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาเรื่องถึงที่สุด
วันนี้ (5 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอำนวย นรินทร์รัมย์ อายุ 51 ปี และ น.ส.ปทิดา นรินทร์รัมย์ อายุ 35 ปี สองพี่น้องชาวบ้านหนองใหญ่ ม.2 ต.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานภาพถ่ายที่ถูกผู้ใหญ่บ้านทำร้ายได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.ถนอมจิตร กันยายน รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแสง อ.สตึก ให้ดำเนินคดีผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนยาง ม.3 ต.ชุมแสง เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
โดยกล่าวหาว่าผู้ใหญ่บ้านใช้แก้วเบียร์ปาใส่ใบหน้าด้านขวาจนเลือดอาบต้องเย็บถึง 11 เข็ม และเศษแก้วกระเด็นใส่แขนเย็บอีก 1 เข็ม โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ตั้งวงดื่มเบียร์ และเล่นการพนันไพ่ 9 เกกับลูกบ้านซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด 6 คน แต่ผู้ใหญ่บ้านได้แต้มน้อยจึงแสดงอาการไม่พอใจและไม่ยอมจ่ายเงินให้ลูกบ้าน น.ส.ปทิดา ซึ่งนั่งอยู่ด้วยพยายามจะเป็นคนกลางพูดเคลียร์ให้ โดยบอกว่าถ้ามีปัญหาก็เลิกเล่นส่วนเงินให้ผู้ใหญ่บ้านเอาไป แต่ทันทีที่พูดจบหันไปกินข้าวสักพักผู้ใหญ่บ้านก็ปาแก้วเบียร์ใส่หน้าเต็มแรงโดยที่ไม่ทันตั้งตัวจนเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า และเศษแก้วยังกระเด็นถูกแขนด้วย ทั้งยังทำทีจะเข้ามาทำร้ายซ้ำอีกแต่เพื่อนบ้านห้ามไว้และพากันนำส่งโรงพยาบาลสตึกให้แพทย์เย็บรักษาบาดแผลดังกล่าว
นายอำนวย และ น.ส.ปทิดา สองพี่น้อง เล่าว่า ที่มาแจ้งความเพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวถึงที่สุด เพราะถือว่ามีเจตนาทำร้ายร่างกายทั้งยังพูดข่มขู่จะเอาชีวิตด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือว่าไม่สมควรที่จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน และหากไม่มีการดำเนินการลงโทษทั้งวินัย และอาญา ต่อไปจะทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่าผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวเป็นคนอารมณ์ร้อนฉุนเฉียว ที่ผ่านมาเคยทำร้ายร่างกายลูกสาวของตัวเองจนลูกสาวเคยแจ้งความพ่อตัวเองมาแล้ว
ทางด้านพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นจะได้ออกหมายเรียกผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำตามขั้นตอน ซึ่งจากพฤติกรรมเบื้องต้นเข้าข่ายข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” ส่วนจะอันตรายสาหัสหรือไม่ต้องรอผลตรวจจากแพทย์อีกครั้ง