ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - โพสต์เฟซบุ๊กจวกยับ! ครูหนุ่มเชียงใหม่ ขี่จักรยานยนต์ซ้อนแฟนสาวกำลังจะไปร้านอาหาร เจอด่านจะวนรถหลบเพราะไม่ได้ใส่หมวกกันน็อก แต่ถูกตำรวจที่หลบซุ่มอยู่ในความมืดพุ่งแผงเหล็กเข้าใส่เพื่อสกัดจนรถล้มเสียหายสตาร์ทไม่ติด และได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ แถมบังคับให้ต้องเป่าแอลกอฮอล์ก่อน ทั้งที่ขอร้องนำแฟนสาวที่บาดเจ็บมากกว่าไปส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ยอม และบอกให้ขี่ไปเอง สุดท้ายพบแอลกอฮอล์ไม่เกิน และปล่อยให้จูงรถกลับทั้งสภาพบอบช้ำจากการบาดเจ็บ ไร้การเหลียวแล ชี้ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ หากบาดเจ็บสาหัสใครจะรับผิดชอบ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (2 ก.ค.) ขณะนี้ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์เรื่องราว และภาพของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เป็นครูหนุ่มรับจ้างสอนภาษาอังกฤษ ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าบางครั้งมีการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ในการสกัดกั้น
โดยบอกเล่าเรื่องราวว่าช่วงดึกคืนวานนี้ (1 ก.ค.) ขณะที่ตัวเอง และแฟนสาวกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อรับประทานอาหาร และดื่มกินเล็กน้อย ระหว่างทางจากบ้านที่ขับขี่ไปตามถนนเจริญราษฎร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ช่วงก่อนถึงวัดศรีโขง เห็นว่ามีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้พยายามวกรถกลับเนื่องจากไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อก และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเล็กน้อย ทำให้หวั่นเกรงว่าจะถูกเรียกตรวจ
ระหว่างที่วกรถจักรยายนต์กลับ และกำลังเร่งเครื่องเพื่อให้รถพุ่งไปข้างหน้าอยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หลบซุ่มอยู่ข้างทางที่มืด ได้ดันแผงเหล็กออกมาเข้าใส่รถจักรยานยนต์ที่ครูหนุ่มรายนี้ขับขี่ และแฟนสาวนั่งซ้อนท้ายเพื่อสกัดกั้น
ทั้งนี้ เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มได้รับความเสียหาย โดยที่ทั้งครูหนุ่มรายนี้ และแฟนสาวได้รับบาดเจ็บ จากนั้นตำรวจที่หลบซุ่มอยู่ได้แสดงตัวออกมา พร้อมจะเชิญตัวให้ครูหนุ่มรายนี้ไปที่ด่านตรวจ ซึ่งครูหนุ่มขอร้องว่า ขอนำตัวแฟนสาวที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า และลุกไม่ไหวไปส่งโรงพยาบาลก่อนได้หรือไม่ แต่ตำรวจปฏิเสธ พร้อมบอกว่า ให้แฟนสาวขี่รถไปเอง ทำให้ครูหนุ่มต้องยอมไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ด่านตรวจ ซึ่งไม่พบว่าเกินแต่อย่างใด จากนั้นได้รับการปล่อยตัว โดยปล่อยให้ครูหนุ่มรายนี้ และแฟนสาวที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บ จูงรถที่เสียหาย และสตาร์ทไม่ติดกลับบ้านเอง
ครูหนุ่มรายนี้ตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำของตำรวจที่ดักซุ่มนั้นถูกต้อง และสมควรหรือไม่ รวมทั้งหากตัวเอง และแฟนสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส จะมีผู้ใดรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวนี้ได้มีผู้แชร์ต่อ และเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตำรวจเป็นจำนวนมาก
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ทราบเรื่อง และได้ทำบันทึกรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย รายงานให้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป