ตาก - พบแม่วัย 42 เป็นโรคลมชัก-ฐานะยากจน เข้าป่าหาหน่อไม้มาต้มให้ลูกกิน เกิดเป็นลมชัก หน้าคว่ำจมน้ำขังลึกแค่นิ้วเศษบนถนนลูกรังเสียชีวิต ในมือยังกำหน่อ และเสียมแน่น ขณะที่สุนัขคู่ใจเห่าเรียกคนมาช่วย แต่ไม่ทัน
วันนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.ต.สมศักดิ์ เกตุสาคร สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งจากชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ว่า พบศพหญิงสาวนอนเสียชีวิตภายในป่าท้ายหมู่บ้านร่วมใจพัฒนา หมู่ที่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จึงประสานฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด พร้อมหน่วยกู้ชีพนครแม่สอดอินเตอร์ รีบเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางลูกรังเข้าป่าท้ายหมู่บ้าน พบชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวต่างมามุงดูรอบสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องกันออกนอกจุดเกิดเหตุ โดยที่ริมถนนซึ่งเต็มไปด้วยต้นไผ่ พบศพหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ นางะแป ไม่มีนามสกุล อายุ 42 ปี
สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาว และสวมผ้าถุง โดยที่ใบหน้าของผู้ตายคว่ำหน้าจมร่องน้ำท่วมขังที่ลึกเพียง 1 นิ้ว ขณะที่ในมือผู้ตายยังกำเสียม และถุงกระสอบที่ภายในมีหน่อไม้อยู่ภายในกระสอบกว่า 10 หน่อ ห่างกันไปเล็กน้อย ยังพบเจ้าน้ำตาล สุนัขพันธุ์ไทยแท้ ที่ผู้ตายเลี้ยง นั่งเฝ้าศพอยู่ท่ามกลางความสลดใจของชาวบ้านที่ไปดูเหตุการณ์ในครั้งนี้
จากการสอบถามบุตรชายของผู้เสียชีวิตวัย 13 ขวบ ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุนางมะแป แม่ของตนที่มีฐานะยากจน ได้เดินเท้าออกจากบ้านพักไปพร้อมกับเจ้าน้ำตาล สุนัขคู่ใจ เพื่อเข้าป่าไปหาหน่อไม้มาต้มให้ตนกินเป็นอาหารเช้า
ขณะที่ตนเองนั่งรอแม่กลับบ้าน แต่ก็ไม่มีวี่แววที่แม่จะกลับมา เวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าน้ำตาล สุนัขที่ติดตามแม่เข้าป่าหาหน่อไม้ ได้วิ่งกลับมาที่บ้านพัก และเห่าเสียงดัง แต่ไม่เห็นแม่ตนกลับมาด้วย ตนจึงสงสัย แล้วแจ้งให้ผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านพัก ให้ช่วยเข้าป่าไปตรวจสอบ โดยมีเจ้าน้ำตาล วิ่งนำหน้าไป
เมื่อไปถึงแนวป่าที่มีต้นไผ่ขึ้นหนาทึบ ก็พบร่างของแม่นอนคว่ำหน้าจมน้ำขังตื้นๆ เพียง 1 นิ้ว เสียชีวิต อยู่ข้างถุงหน่อไม้ที่กำลังจะนำกลับมาต้มให้ตนกิน
เบื้องต้น ตำรวจสันนิฐานว่า ผู้ตายซึ่งมีโรคประจำตัว เป็นโรคลมชัก อาจจะกำเริบแบบฉับพลัน จนเป็นลมชัก และวูบล้มลงไปกับพื้นที่มีน้ำท่วมขังจนใบหน้าคว่ำจมน้ำเสียชีวิต โดยไม่มีใครพบเห็น และช่วยเหลือได้ทัน ขณะนี้ตำรวจได้มอบศพให้ญาติผู้เสียชีวิตนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนบุตรชาย ซึ่งกลายเป็นเด็กกำพร้าโดยทันที ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานญาติผู้ใหญ่ให้รับเด็กไปดูแลเลี้ยงดูต่อไป