xs
xsm
sm
md
lg

วัดพนัญเชิง เผยเส้นทางเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อยุธยา - วัดพนัญเชิง ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการรับเงินอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิงวรวิหาร เผยได้รับการติดต่อจากสำนักพุทธ จะมอบเงินให้ทางวัดรวม 2 ครั้ง 20 ล้านบาท แต่ได้จริงเพียง 7 ล้านบาท พร้อมเตรียมดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่สำนักพุทธ ฐานทำชื่อเสียงวัดเสียหาย

วันนี้ (27 มิ.ย) ที่ห้องประชุมวัดพนัญเชิงวรวิหาร ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัดพนัญเชิง ออกมาแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการรับเงินอุดหนุนการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิงวรวิหาร และการพัฒนาวัดประจำปี พ.ศ.2555 ถึง พ.ศ 2559 จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายฝ่ายบ้านเมือง

ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของวัดพนัญเชิงวัดพนัญเชิงวรวิหาร กล่าวว่า วัดพนัญเชิง ได้ก่อสร้างก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา เป็นระยะเวลา 26 ปี อาจนับถึงปัจจุบันมีอายุเกือบ 700 ปี โดยมี พระธรรมรัตนมงคล (แวว กตสาโร) เป็นเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2547 มาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 13 พรรษา ทางวัดได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานที่มีอยู่เดิม และก่อสร้างกุฏิ ตลอดจนสิ่งปลูกสร้างภายในวัดเรื่อยมา

โดยนำเงินที่ประชาชนทำบุญ และเงินอุดหนุนจากทางราชการมาดำเนินการดังกล่าว ในการดำเนินการมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดจนคณะกรรมการของวัดได้ร่วมกันตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดตลอดมา

และเมื่อประมาณปี พ.ศ.2555 วัดได้ก่อสร้างกุฏิทรงไทย จำนวน 9 หลัง และในปี 2556 วัดได้ก่อสร้างทางเดินรอบวิหารหลวงพ่อโต โดยนำรายได้จากการทำบุญ และเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธามาดำเนินการ ต่อมา เมื่อปลายปี 2556 น.ส.ประนอม คงพิกุล ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ในขณะนั้นซึ่งรู้จักกับพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส เนื่องจากมีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับกิจการของศาสนา โดย น.ส.ประนอม ได้โทรศัพท์หาพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส แจ้งว่า ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะให้เงินอุดหนุนทางวัด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนวัดในงบประมาณปี 2557 เพื่อให้วัดดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ภายในวัด โดย น.ส.ประนอม แจ้งว่า เงินดังกล่าวให้วัดเพื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์ จำนวน 2 ล้านบาท ส่วนอีก 8 ล้านบาท จะนำไปให้วัดอื่นที่ยากจนทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานภายในวัด และพัฒนาวัด

ส่วนเงิน 2 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสได้นำไปใช้ปรับปรุงก่อสร้างทางเดินบริเวณวิหารหลวงพ่อโต จากนั้นเมื่อประมาณปลายปี 2557 น.ส.ประนอม ได้ติดต่อมายังพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาสอีกครั้ง โดยบอกว่า จะให้เงินสนับสนุนวัดอีก 10 ล้านบาท แต่ขอให้ทางวัดมอบเงินสด จำนวน 5 ล้านบาท ให้แก่ น.ส.ประนอม นำไปช่วยวัดอื่นๆ ที่ยากจนต่อไป ส่วนเงิน 5 ล้านบาท ทางเจ้าอาวาสได้นำไปปรับปรุงกุฏิทรงไทย 9 หลัง

เกี่ยวกับเงินอุดหนุนวัดในงบประมาณปี พ.ศ.2557 และปี 2558 นั้นที่ น.ส.ประนอม จัดมาให้พระธรรมรัตนมงคล ได้สอบถาม น.ส.ประนอม ว่า ถูกกฎหมายหรือไม่ น.ส.ประนอม ตอบว่าถูกกฎหมาย พระธรรมรัตนมงคล เชื่อ และดำเนินการตามที่ น.ส.ประนอม แนะนำมา ประกอบกับเห็นว่า น.ส.ประนอม เป็นผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณอุดหนุนวัดต่างๆ ในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

จากนั้นประมาณต้นปี พ.ศ.2560 พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อขอสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินอุดหนุนที่วัดได้รับมาจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามที่ น.ส.ประนอม ได้เสนอให้แก่วัดดังกล่าว ทางวัดก็ได้ให้ความร่วมมือต่อพนักงานสอบสวนเป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส ได้มอบอำนาจให้พระเมธีวราพร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนแทน หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป) สํานักงานตํารวจแห่งชาติ มีหนังสือแจ้งให้พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส และพระเมธีวราภรณ์ ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติม จากนั้นวันที่ 20 มีนาคม 2560 พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส และพระเมธีวราภรณ์ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวนที่สำนักงาน ปปป.

และในวันที่ 19 มิถุนายน 2560 พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส และพระเมธีวราภรณ์ ได้ทำบันทึกถ้อยคำเพิ่มเติม และส่งเอกสารการใช้เงินงบประมาณปี 2557 จำนวนเงิน 2 ล้านบาท และเอกสารการใช้จ่ายเงินงบประมาณปี 2558 จำนวนเงิน 5 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2560 พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส ก็ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า น.ส.ประนอม ได้ถูกพนักงานสอบสวน ปปป แจ้งข้อกล่าวหากรณีเงินอุดหนุนวัดพนัญเชิงวรวิหาร จำนวน 13 ล้านบาท พระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส จึงเชื่อว่า น.ส.ประนอม ไม่ได้นำเงิน จำนวน 13 ล้านบาท ไปดำเนินการช่วยวัดต่างๆ ตามที่พูดไว้กับพระธรรมรัตนมงคล เจ้าอาวาส การกระทำดังกล่าวของ น.ส.ประนอม จึงทำให้วัดได้รับความเสียหาย ทางวัดโดยเจ้าอาวาสจึงได้มอบหมายอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจไปดำเนินการดังนี้

1.แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ น.ส.ประนอม ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจพระนครศรีอยุธยา
2.ร้องเรียนต่อรองนายกรัฐมนตรี
3.ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
4.ร้องเรียนต่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) เกี่ยวกับกรณีเงินที่ทางวัดได้แจ้งความไว้เงิน จำนวน 13 ล้านบาทดังกล่าว หากทางวัดเรียกคืนมาได้ทางวัดประสงค์ส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการนำไปช่วยวัดที่ยากจนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ทางวัดโดยเจ้าอาวาส ขอยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือต่อพนักงานสอบสวน และหน่วยงานราชการทุกหน่วยงานในการให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีเงินอุดหนุนดังกล่าว และเจ้าอาวาส ในฐานะส่วนตัวก็ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่มีผลประโยชน์ได้เสียกับเงิน จำนวน 13 ล้านบาทดังกล่าว จึงขอยืนยันในความบริสุทธิ์เพื่อให้สื่อมวลชนรับทราบทั่วกัน

เงินอุดหนุนวัดในปีงบประมาณ 2557 ถึง 2558 ทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยพระธรรมรัตนมงคล ในฐานะเจ้าอาวาส ได้มอบหมายให้ ดร.สมศักดิ์ โตรักษา ในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย รายละเอียดปรากฏตามหนังสือแต่งตั้งที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายเป็นผู้มีอำนาจชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อป้องกันมิให้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดพนัญเชิงอัน เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทย และต่างประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันวันละหลายร้อยคน และเป็นวัดที่มีประวัติอันยาวนานถึง 700 ปี ในปัจจุบันเป็นศาสนสถานที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในประเทศไทย

กำลังโหลดความคิดเห็น