ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผวาปัญหาเมืองอกแตก! ภาคเอกชน องค์กรท้องถิ่น และชาวโคราช เดินหน้าเรียกร้องผลักดันแก้แบบก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ให้ยกระดับขึ้นข้างบน แทนรางบนดินช่วงผ่าตัวเมืองโคราชทั้งหมด วอน“บิ๊กตู่” จี้ ร.ฟ.ท.-ก.คมนาคม ทบทวนด่วน ชี้อนาคตลูกหลานย่าโมและชาวอีสานได้รับผลกระทบหนัก ทั้งปัญหาด้านการจราจร เศรษฐกิจการค้าขาย ด้านสังคม วิถีชีวิต และน้ำท่วมเมือง
วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมย่าโม 2 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนตามอัธยาศัย จ.นครราชสีมา นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และนายไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยตัวแทน นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครราชสีมา, สมาชิก อบจ.นครราชสีมา, ผู้ประกอบการ พ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ ผู้นำชุมชน ตัวแทนประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมา, ชมรมจักรยานยนต์รับจ้างในตัวเมือง ได้ยื่นหนังสือต่อนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง ขอแก้ไขการออกแบบก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ-ขอนแก่น
โดยเฉพาะการก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ ช่วงผ่านตัวเมืองเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ที่จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก การที่มีจุดตัดจำนวนมาก ส่งผลให้การสัญจรไปมาของยวดยานพาหนะที่คับคั่งหนาแน่นอยู่แล้วโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนต้องติดขัดหนักขึ้นอีก
เช่น บริเวณข้างจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , ห้าแยกหัวรถไฟ, ถนนสืบศิริ , แยกไฟร์สตาร์, เบญจรงค์ เป็นต้น ซึ่งทุกฝ่ายเรียกร้องให้มีการทบทวนการออกแบบการก่อสร้างโครงการ จากรางรถไฟทางคู่บนดินให้ดำเนินการยกระดับรางรถไฟทางคู่ขึ้นข้างบน ในช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมาแทนทั้งหมด
นายชัชวาล กล่าวว่า การที่ ร.ฟ.ท.ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่บนดินโดยไม่ยกระดับขึ้นข้างบนในช่วงผ่ากลางตัวเมืองนครราชสีมา นั้นจะทำให้เมืองโคราชกลายสภาพเป็นเมืองอกแตก ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จะทำให้บรรดาผู้ประกอบการ พ่อค้า นักธุรกิจ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ผู้ใช้รถใช้ถนนในชุมชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมาได้รับผลกระทบหลายแสนคน โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นจะส่งมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ การค้า ของ จ.นครราชสีมาโดยตรงด้วย ตลอดจนการใช้วิถีชีวิตของคนในตัวเมือง ทั้งข้าราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา ลูกเล็กเด็กแดง ทั้งในด้านการไปมาหาสู่กัน และการค้าขาย
นอกจากนี้ พวกเรายังได้ยื่นหนังสือเรียกร้อง ฉบับเดียวกันนี้ ให้ทางกองทัพภาคที่ 2 โดย พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งทั้งสองส่วนได้รับฟังและเล็งเห็นถึงผลกระทบดังกล่าวด้วยเช่นกัน พร้อมกับเห็นด้วยกับการดำเนินการผลักดันให้ดำเนินแก้ไขการออกแบบก่อสร้างโครงการฯ ของพวกเราในทิศทางที่สอดคล้องตรงกันทุกฝ่าย และยินดีมีส่วนร่วมผลักดันไปด้วยกัน เพื่อให้บ้านเมืองมีการพัฒนาไปมากยิ่งขึ้น
“ ความเดือดร้อนหรือผลกระทบตรงนี้ หากพวกเราไม่แก้ไขตอนนี้ มันจะเป็นปัญหาระยะยาวและมีผลกระทบต่อลูกหลานของพวกเราโดยตรงในอนาคต ” นายชัชวาล กล่าว
นายชัชวาล กล่าวต่อว่า เป้าหมายที่ต้องออกมาเรียกร้องให้ทบทวนการออกแบบก่อสร้างโครงการโครงการรถไฟทางคู่ ครั้งนี้ เพื่อต้องการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย, กระทรวงคมนาคม และผู้ที่มีอำนาจที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาหรืออนุมัติโครงการนี้ และการทำสัญญาดำเนินการก่อสร้างรถไฟรางคู่ ให้เห็นถึงผลกระทบอย่างแท้จริง และ ความคุ้มค่าของการยกระดับรางรถไฟขึ้น เพราะอนาคตเศรษฐกิจ ที่จะได้มาไม่ใช่เป็นของ จ.นครราชสีมา เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงว่าเราเป็นประตูแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประตูสู่ AEC จะส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศไทยเจริญเติบโตได้อย่างดีขึ้น
ส่วนผลกระทบและความเดือดร้อนหลักๆ ที่เห็นชัดเจน ประกอบด้วย 1. ความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนทั้งหลาย ที่หาเช้ากินค่ำเดือดร้อนแน่นอน ซึ่งทุกคนใช้รถจักรยาน, จักรยานยนต์, จักรยานยนต์พ่วง, รถสองแถว, จักรยานยนต์รับจ้าง, รถซาเล้ง ,รถเข็น, รถสามล้อปั่นรับจ้าง ที่ทำมาหากินในแต่ละวัน กับการข้ามไปข้ามมาด้วยความยากลำบาก
2. การที่มีกำแพงสูง 2 เมตรกั้นขวางตลอดระยะเส้นทางตามแนวรางรถไฟ ทำให้เกิดปัญหาเรื่องน้ำไม่สามารถระบายได้ดี ซึ่งจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้น 3. ตัวเมืองโคราชจะถูกแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน และ 4. ปัญหาการข้ามไปข้ามมาต้องใช้ระบบรถยนต์ ซึ่งจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยใช่เหตุในการวิ่งอ้อมไปอ้อมมา
นายชัชวาล กล่าวอีกว่า ข้อเสนอโดยสรุปที่เสนอไปยัง ร.ฟ.ท. คือ การยกระดับรางรถไฟทางคู่เป็นทางออกทางเดียวจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ยกเว้นเรื่องการลอดใต้ดิน ซึ่งสิ้นเปลืองและใช้งบประมาณสูงมาก ฉะนั้นต้องยกระดับขึ้นข้างบน และ ทุกจังหวัด เช่น ขอนแก่น, อุดรธานี เขาทำอย่างนี้กันหมด เพื่อให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และก้าวกระโดด
“ พวกเราอยากฝากไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ปัญหาเดือดร้อนครั้งนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาเฉพาะใน จ.นครราชสีมาอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาที่ต้องผูกพันไปจนถึงจังหวัดใกล้เคียง และเส้นทางที่จะใช้คมนาคมเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ทั้งอีสานตอนบนและอีสานตอนล่าง ฉะนั้นมันมีผลกระทบอย่างมหาศาล หากรางรถไฟทางคู่ไม่ยกระดับขึ้นไป” นายชัชวาล กล่าว ในตอนท้าย