ส่องเส้นทางยานรก-สถิติสยอง“เฮโรอีน ไอซ์ ยาบ้า”ทะลักจากว้า

เชียงราย - เปิดสถิติน่าสะพรึง..ปีงบประมาณ 60 แค่ 8 เดือน 8 จว.จับคดียาเสพติดกว่า 1.5 หมื่นราย เฉพาะ“เชียงราย”ยอดจับรายใหญ่กุมภาฯ-มิถุนาฯ ยึดยาบ้าได้กว่า 20 ล้าน ไอซ์กว่า 200 กก. เฮโรอีนอีก 168 กก. ทุกหน่วยฟันธงทะลักจาก “เขตอิทธิพลว้า” ส่งต่อสารพัดกลุ่มขนเข้าไทยต่อ

สถิติการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ที่เพิ่มขึ้นทุกจังหวัด เฉพาะห้วงตุลาฯ59 - พฤษภาคม 60 รวมแค่ 8 เดือน จับได้มากถึง 15,794 คน รวมถึงข่าวสารตามหน้าสื่อ เกี่ยวกับการจับกุมยาบ้าล็อตใหญ่ครั้งละเป็นแสน เป็นล้านเม็ด ถือเป็นข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์ที่บ่งชี้ถึงสถานการณ์ยาเสพติดที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง

โดยเฉพาะ “เชียงราย” จังหวัดชายแดนติดกับ “รัฐฉาน เมียนมา” เขตอิทธิพลกองกำลังว้า ซึ่งปกครองเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ถือเป็นพื้นที่ ที่มีการลักลอบลำเลียงยานรกเข้าไทยหนักหน่วงที่สุด

ซึ่งจากข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคงชายแดนด้านเชียงราย เพียงหน่วยงานเดียวระบุว่า ตั้งแต่เดือน ก.พ.- มิ.ย. 2560 นี้เจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาบ้าได้กว่า 20,706,800 เม็ด , ไอซ์ อีกประมาณ 215 กิโลกรัม , เฮโรอีน ประมาณ 168 กิโลกรัม และจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ๆ ได้กว่า 46 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไทย และมีกลุ่มอื่นๆ บ้าง เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง มูเซอ ฯลฯ

และแต่ต้นปี-มิ.ย.60 ยังพบว่า ขบวนการค้ายาเสพติด มักใช้กองกำลังติดอาวุธช่วยขนลำเลียงบริเวณชายแดน จนเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ อย่างน้อย 2-3 ครั้ง และเป็นที่น่าสังเกตุอย่างยิ่งว่า มีการขนลำเลียงยาบ้าเกิน 1 ล้านเม็ด มากถึง 6 ครั้ง และจำนวนที่มากที่สุดคือ 4.2 ล้านเม็ด ขณะที่การขนแบบรายย่อย หรือกองทัพมด น้อยลงกว่าเดิม

ซึ่งตามสถิติการลักลอบขนยาบ้าในพื้นที่ชายแดนเชียงราย พบว่า เดือนพฤษภาคม มีการลักลอบขนมากถึง 14 ครั้ง ส่วนเดือนมีนาคม , เมษายน และมิถุนายน มีการขนเข้ามาเดือนละอย่างน้อย 7 ครั้ง เฉพาะเดือนมิถุนาฯนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้า ได้มากที่สุดถึงกว่า 6.9 ล้านเม็ด , เดือน พ.ค.ประมาณ 5.1 ล้านเม็ด และเดือน เม.ย.ประมาณ 6.8 ล้านเม็ด

ส่วนยาเสพติดประเภทยาไอซ์ลักลอบขนเข้ามามากที่สุดช่วงเดือนเมษายน 60 ที่ผ่านมา ถึง 149 ครั้ง และเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 89 ครั้ง ขณะที่เฮโรอีน พบขนเข้ามามากเฉพาะช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.รวม 168 ครั้งเท่านั้น

แต่ทั้งหมดเป็นเพียงสถิติที่ตรวจยึด-จับกุมได้..ทุกหน่วยเชื่อว่า มียาเสพติดเล็ดรอดเข้าพื้นที่ชั้นในอีกมาก

เช่น กรณีทหารกองกำลังผาเมือง - ตำรวจ สภ.แม่สาย เชียงราย ปะทะคาราวานขนยาเสพติดเมื่อ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณบ้านผาหมี ม.11 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งยึดยาบ้าได้ 2,268,000 เม็ด ไอซ์อีก 1 กก. จับผู้ต้องหาได้ 2 ราย แต่เจ้าหน้าที่พบว่า มีคนในคาราวานขนยานรกครั้งนี้หนีไปได้หลายคน และเชื่อว่า ล็อตนี้มีการขนยาบ้าเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านเม็ด

สำหรับแหล่งผลิต..ทุกหน่วยฟันธงตรงกันทำนองว่า ส่วนใหญ่อยู่ในเขตรัฐฉาน ฝั่งตรงข้ามเชียงราย-เชียงใหม่ เขตอิทธิพลกลุ่มว้า ที่มีศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่เมืองปางซาง ใกล้ชายแดนพม่า-จีน และเมืองยอนใหม่ ที่ดูแลพื้นที่รัฐฉานตอนใต้ เขตติดต่อกับ เชียงใหม่-เชียงราย

เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบด้านยาเสพติดโดยตรงระบุว่า แหล่งผลิตยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าจริงๆ มีเพียงไม่กี่แห่ง และอยู่ในเขตอิทธิพลของกลุ่มว้าที่มีเทคโนโลยี เครื่องจักร และสามารถนำเข้าวัตถุดิบโดยเฉพาะสารเคมี เช่น ซูโดอีเฟดรีน ฯลฯ ดูได้จากลักษณะของยาเสพติดออกมาเหมือนกันแต่ต่างกันตรงบรรจุภัณฑ์ หรือตราประทับเท่านั้น

โดยจุดผลิตอาจมีเพียง 2-3 แห่งโดยเฉพาะแถบเมืองปางซาง-เมืองป๊อก ที่เชื่อมไปได้ทั้งไทย จีน และอินเดีย จากนั้นจึงค่อยกระจายตัวยาเสพติดไปยังโรงงานต่างๆ ที่กระจายอยู่ใกล้ชายแดนด้าน จ.เชียงราย-เชียงใหม่ ไม่น้อยกว่า 11 แห่ง เพื่อทำบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มต่างๆ ที่จะรับซื้อ หรือขนต่อไปให้กับผู้ซื้อในฝั่งไทย

ซึ่งห่อยาบ้า ที่ผลิตจะเป็นกระดาษไขที่มีมาจากต้นทางแล้ว จากนั้นนำมาประทับตราต่างๆ เช่น มือจับกัน 999 Y1 Y2 ฯลฯ โดยสีน้ำเงิน และสีแดงที่ใช้ ยังบ่งบอกว่า เป็นของกลุ่มว้าเหนือ ว้าใต้ มูเซอ ฯลฯ

และจากฐานข้อมูลเมื่อหลายปีก่อนพบว่าโรงงานบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวยังคงกระจายตัวอยู่ตามตะเข็บชายแดนที่ครอบครองอิทธิพลโดยกลุ่มต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ว้า ม้ง ไทใหญ่ มูเซอ จีนฮ่อ ฯลฯ โดยเฉพาะในเขต จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่สาย ที่เริ่มปรากฎให้เห็นผู้มีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม บ่อนคาสิโน ร้านคาราโอเกะ สถานบันเทิง ฯลฯ หลายแห่ง

และหนึ่งในนั้น พึ่งถูกใช้เป็นแหล่งกบดานของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ "เปรี้ยว" อายุ 24 ปี , น.ส.กวิตา ราชดา อายุ 25 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต อายุ 28 ปี 3 ผู้ต้องหาในคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวคาราโอเกะดังเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น จนเป็นข่าวโด่งดังจนถึงขณะนี้

ส่วนเครือข่ายขนลำเลียง..มีหลากหลายกลุ่ม โดยขนจากรัฐฉาน เข้าสู่ประเทศไทยผ่านชายแดนไทย-เมียนมา ทุกช่องทางตลอดแนวตั้งแต่ อ.ฝาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ - อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเฉพาะ “เชียงราย” ดังที่กล่าวมา มีการขนกันทั้งทางบก-น้ำโขง

ช่องทางที่ลักลอบนำเข้ามาบ่อยครั้ง และเป็นจำนวนมากๆ ในช่วงหลังนี้คือ ช่องทางธรรมชาติเขตบ้านผาขาว บ้านสามปี จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง-อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเลี่ยงช่องทางเดิมแถบบ้านแม่โจ๊ก ตรงข้ามบ้านม้งเก้าหลัง อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งในอดีตเคยเป็นแหล่งทั้งนำเข้ายาเสพติดและส่งออกสารตั้งต้น แต่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวางกำลังดูแลชายแดนอย่างเข้มงวด