จันทบุรี - ครอบครัวทำสวนผลไม้ ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง รวม 5 คน จะไปเที่ยวงานถนนคนเดิน ยูเทิร์นตัดหน้ารถยนต์กระบะที่วิ่งสวนทางมาด้วยความเร็ว ก่อนถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนอย่างจัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) ร.ต.อ.วรชัย แจ่มศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรขลุง จังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง บนถนนสายสุขุมวิท จันทบุรี-ตราด ขาเข้าเมือง ตรงแยกทางเข้าวัดหนองระหาน ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.วรชัย แจ่มศรี ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรขลุง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ขลุงมูลนิธิ ได้รุดไปที่เกิดเหตุตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย คือ นางบุญโฮม สมสนุก อายุ 56 ปี และบาดเจ็บอีก 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายวุฒิโชค เงาแจ้ง อายุ 57 ปี 2.น.ส.ไพลิน งามมีฤทธิ์ อายุ 20 ปี อาการสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาที่ โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี 3.นายวีรชัย ญาวาปี อายุ 25 ปี และ 4.ด.ช.ศุภโชค เงาแจ้ง อายุ 12 ปี และ 1 ใน จำนวน 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ ด.ช.ศุภโชค เงาแจ้ง อายุ 12 ปี เจ้าหน้าที่ขลุงมูลนิธิกำลังช่วยปั๊มหัวใจ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลขลุง
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน ขขธ 707 จันทบุรี ต่อพวงเป็นสามล้อ สภาพพังยับเยิน พวงข้างหลุดออกจากกัน ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กระบะโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ญว 9716 กทม เสียหลักตกอยู่ในโพรงหญ้าริมข้างทาง สภาพมีรอยชนด้านหน้า กระจกหน้าแตก ทราบชื่อคนขับคือ นายชลนิธิ กุลทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ซอย 2 ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีอาชีพเป็นเซลล์ขายปุ๋ย ขายยา ยืนรอให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดที่มากับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เนื่องจากเป็นเครือญาติกัน อยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลซึ้ง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ขณะเกิดเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างจะพากันไปเที่ยวงานถนนคนเดิน มาถึงที่เกิดเหตุได้กลับรถตรงยูเทิร์น ซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างมืด และไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง
จากนั้นได้มีรถยนต์กระบะวิ่งสวนเลนมาด้วยความเร็วสูง หลบซาเล้งคันดังกล่าวที่กลับรถตัดหน้าไม่ทัน จึงทำให้พุ่งชนเข้าอย่างจัง ส่งผลให้กลุ่มผู้บาดเจ็บ และผู้ชีวิตกระเด็นตกบนถนนไปคนละทิศละทาง ส่วนรถยนต์กระบะเสียหลักวิ่งลงไปในพงหญ้าริมข้างทาง เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมหลักฐานหาข้อเท็จจริงการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป
