เชียงใหม่ - ตามส่อง “โรงเรียนเทศบาลหางดง” หลังนักเขียนดังโพสต์พาลูกย้ายจาก ร.ร.เอกชน มาเรียนแล้วสุดประทับใจ จนแชร์กันว่อนโซเชียลฯ ผอ.ย้ำฉีกแนวการเรียนการสอนที่แข่งขันกันแบบ “หมาหางด้วน” เน้นผู้เรียนมีความสุข-คุณค่าของคน มากกว่าผลคะแนน
หลังผู้ปกครองที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Soikaew Khamamala โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการย้ายลูกสาวจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งเข้าเรียนโรงเรียนเทศบาลหางดง (ประชาคมสร้างสรรค์) ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยระบุว่าลูกสาวมีความสุขขึ้นมาก และมีความพร้อมทั้งสถานที่ การสนับสนุนด้านกีฬาระดับมาตรฐาน ทั้งสนามวิ่ง-ลู่วิ่งที่นุ่ม สระว่ายน้ำ ตลอดจนมีการเปิดสอนศิลปะพื้นบ้าน ลิเก ฯลฯ โดยมีการแชร์ต่อกันมากมายนั้น
ล่าสุด นายสุเทพ อินตาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลหางดง (ประชาคมสร้างสรรค์) ได้พูดคุยกับคุณแม่-ผู้ปกครองคนดังกล่าว คือ นางสร้อยแก้ว คำมาลา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/3 หมู่ 8 ต.หารแก้ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นักเขียนอิสระชื่อดัง พร้อมลูกสาว ด.ญ.ตาน้ำ คำมาลา อายุ 8 ขวบ
น้องตาน้ำเปิดเผยว่า มาอยู่ที่โรงเรียนใหม่มีความสุขมาก ได้เรียนและเล่นกีฬาต่างๆ ทั้งวิ่ง ว่ายน้ำ และได้เล่นลิเกด้วย
ด้านนางสร้อยแก้ว คำมาลา คุณแม่นักเขียน กล่าวว่า หลังจากย้ายน้องตาน้ำจากโรงเรียนเอกชนมาโรงเรียนรัฐบาล ก็เพิ่งมาทราบว่าที่โรงเรียนแห่งนี้สนับสนุนการกีฬากิจกรรมทุกอย่างของเด็ก มีเครื่องเล่นกีฬาที่ได้มาตรฐาน ทั้งสระน้ำที่จะหาได้ยากในโรงเรียนรัฐ หรือของเทศบาล ตนจึงนำเรื่องไปเขียนบอกเล่าในกลุ่มเพื่อนๆ แต่ก็มีคนแชร์ไปจนส่งเรื่องบอกต่อกันไปจนโด่งดัง
นายสุเทพ อินตาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลหางดง (ประชาคมสร้างสรรค์) เปิดเผยว่า หลังทราบว่ามีการแชร์เรื่องราวของโรงเรียนกันมาก ตนก็ได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์ทำให้เห็นว่าปัจจุบันสังคมไทยเข้าใจการศึกษามากขึ้น มองการศึกษาแบบทะลุ มองการศึกษาแบบเน้นคุณค่าของการเป็นคนมากขึ้น ต่างจากการศึกษาทั่วไปที่เน้นผลคะแนน O-Net NT เป็นหลัก ทั้งที่คุณค่าของคนมีมากกว่านั้นแต่กลับไม่ได้มอง พออ่านแล้วก็ทำให้ดีใจที่ความเห็นคนส่วนใหญ่สอดคล้องกับแนวทางโรงเรียนเราที่เน้นการเรียนอย่างมีความสุข สอนคนให้เป็นคน เน้นการสอนที่เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ มีกิจกรรมให้เด็กนอกจากการเรียนการสอนทั่วๆ ไป
“เราไม่ได้หลงทางเหมือนกันการจัดการศึกษาทั่วไป ที่ต้องขออนุญาตใช้คำของพระพุทธทาส ที่ว่า แข่งขันแบบหมาหางด้วน เราจึงฉีกแนวจัดการศึกษาเน้นให้คนเรียน เรียนอย่างมีความสุข และมีความเชื่อมั่นว่า ถึงแม้ว่าเด็กทุกคนจะมีแตกต่างกันแต่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ตามศักยภาพของแต่ละคน”
