บุรีรัมย์ - ยายวัย 62 ปี ชาวบุรีรัมย์ พร้อมลูกชายและญาติพี่น้องต่างดีใจน้ำตาร่วง หลังศาลรับฟ้องคดีเพื่อนบ้านบุกยิงสามีเสียชีวิตอุกอาจกลางงานแต่งงาน ต่อหน้าลูกชาย และผู้มาร่วมงาน ผู้ต้องหาหลบหนี 17 ปี ถูกจับได้ ตร.ให้ประกันตัว และอัยการสั่งไม่ฟ้อง จึงเดินเรื่องต่อสู้ขอความเป็นธรรมเกือบ 20 ปี จนต้องยื่นฟ้องเอง และเหลืออีกเพียง 8 วันจะหมดอายุความ
วันนี้ (21 มิ.ย.) นางสง่า แสนประเสริฐ อายุ 62 ปี ชาวบ้านหัวสะพาน ต.ช่อผกา อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ พร้อมลูกชาย และญาติพี่น้องต่างดีใจหลังศาลจังหวัดนางรอง รับฟ้องคดีที่นายบัวพา พูนไธสง เพื่อนบ้านใช้อาวุธปืนลูกซองยาวบุกยิงนายมน แสนประเสริฐ สามีนางสง่า เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย. 2540 เสียชีวิตอย่างอุกอาจต่อหน้าลูกชาย และแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนในหมู่บ้านจำนวนมาก ด้วยสาเหตุโกรธแค้นส่วนตัว
หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีไปต่างจังหวัด กระทั่งเมื่อปี 2557 หรือ 17 ปีต่อมา ผู้ต้องหาถูกจับกุมตัวได้ที่ จ.ระยอง ตามหมายจับของศาลในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และถูกควบคุมตัวมาที่ สภ.ชำนิ ท้องที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวรู้สึกดีใจที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่ผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ทราบว่าผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไปแล้วทั้งที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และต่อมาไม่นานได้รับหนังสือแจ้งจากทางอัยการว่ามีคำสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าว ทำให้ครอบครัวรู้สึกตกใจ และเชื่อว่าน่าจะมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน เพราะมีหลักฐานและพยานเห็นเหตุการณ์ขณะลงมือก่อเหตุหลายคน โดยเฉพาะลูกชายที่เห็นพ่อถูกยิงเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา แต่ตำรวจไม่เคยเรียกไปสอบปากคำเลย เมื่อครอบครัวไปสอบถามทีไรบอกให้รอก่อนเดี๋ยวจะเรียกเอง จึงรู้สึกไม่มั่นใจในการทำคดีของเจ้าหน้าที่
ทางครอบครัวจึงได้เดินเรื่องเรียกร้องขอความเป็นธรรมทั้งที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ จังหวัด กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานอัยการสูงสุดมาตลอด ต่อมา ทางกระทรวงยุติธรรมได้แนะนำให้ผู้เสียหายยื่นฟ้องเอง ทางครอบครัวจึงตัดสินใจหาเงินจ้างทนายยื่นฟ้องเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย ทั้งที่มีฐานะยากจน มีอาชีพทำนา และรับจ้างทั่วไป
กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนางรองได้รับฟ้องคดีพร้อมออกหมายเรียกจำเลยมาไต่สวนในวันที่ 23 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ แต่หากไม่มาตามนัดก็จะออกหมายจับ ทำให้ครอบครัวดีใจและมีความหวังมากขึ้นว่าจะได้รับความเป็นธรรม หลังจากได้รอคอยและต่อสู้มานานเกือบ 20 ปี และเหลืออีกเพียง 8 วัน คดีจะหมดอายุความแล้ว
นางสง่า แสนประเสริฐ ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ดีใจ และขอบคุณศาลที่เมตตารับคดี ทำให้ครอบครัวมีความหวังมากขึ้น และเชื่อว่ายังมีความยุติธรรมเหลืออยู่ จากที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ สามีตายไปทั้งคน แต่ผู้กระทำผิดยังลอยนวลทั้งที่มีหลักฐานพยานชัดเจน แต่ไม่สามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้ กระทั่งอีกไม่กี่วันคดีจะหมดอายุความศาลก็รับคดี ทำให้ครอบครัวรู้มีความหวัง
“จึงอยากจะบอกแก่วิญญาณของสามีให้ไปสู่สุคติ ตอนนี้ครอบครัวได้เรียกร้องความเป็นธรรมให้อย่างถึงที่สุดแล้ว” นางสง่ากล่าว
ด้านนายประสาทพร เข็มเข้ม อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า วันเกิดเหตุแม้ตนจะไม่ได้เห็นกับตา แต่พอหลังเกิดเหตุได้เดินมาดูที่เกิดเหตุแล้วเพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างบอกว่า ผู้ก่อเหตุคือนายบัวพา เพื่อนบ้านที่มีปัญหากับผู้ตายก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ เรื่องที่นายบัวพาจ้างลูกชายไปตัดไม้ในที่นาของคนอื่นจนทำให้ถูกแจ้งความจับ จากนั้นมีปากเสียงกันรุนแรงแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กระทั่งวันที่ 28 มิ.ย. 2540 ผู้ตายไปร่วมงานแต่งในหมู่บ้าน พร้อมกับลูกชาย แล้วถูกยิงเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดผู้กระทำผิดจึงลอยนวลไม่ถูกดำเนินคดีมาเกือบ 20 ปี จนทางครอบครัวต้องจ้างทนายยื่นฟ้องเอง และศาลก็รับคดี ซึ่งเหลืออีกไม่กี่วันก็จะหมดอายุความแล้ว
“จึงอยากฝากให้คดีดังกล่าวเป็นตัวอย่างในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วย” นายประสาทพรกล่าวในตอนท้าย