หลานชายเนรคุณฆ่าลุง จัดฉากเผาบ้านอ้างไฟไหม้

ฉะเชิงเทรา - หลานชายเนรคุณก่อเหตุทุบศีรษะฆ่าลุงแท้ๆ ที่มาขออาศัยชายคากินอยู่หลับนอนร่วมด้วยจนเป็นครอบครัวเดียวกัน ก่อนจุดไฟเผาบ้านจัดฉากอ้างไฟฟ้าช็อตไหม้บ้าน ขณะตำรวจคุมตัวเค้นสอบเครียด แต่ยังปากแข็งให้การปฏิเสธ ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้านที่ให้ความสนใจต่างมารุมล้อมดูที่เกิดเหตุเนืองแน่น
               
                วันนี้ (18 มิ.ย.) ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ อ่อนศรีทอง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไม้บ้านพัก และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในบ้าน ที่หมู่บ้านหนองกระสังข์ พื้นที่ ม.6 ต.แหลมประดู่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รอยต่อกับ ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ
 
                ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางเลี้ยวออกจากถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 3304 บ้านโพธิ์-แหลมประดู่-แปลงยาว เข้าไปในเส้นทางเข้าหมู่บ้านหนองกระสังข์ ประมาณ 300 เมตร ภายในบ้านเลขที่ 85/2 ม.6 ต.แหลมประดู่ ซึ่งเป็นบ้านคอนกรีตปลูกสร้างด้วยอิฐบล็อกไม่ฉาบผนังครึ่งสังกะสี โครงสร้างด้านบนเป็นไม้มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง พบมีร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชายจำนวน 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสังเวียน ส้มเกลี้ยง อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน ถูกไฟเผาจนตัวดำไหม้เกรียม นอนจมอยู่ในกองเพลิง
 
                โดยมีชาวบ้านได้ช่วยกันระดมใช้น้ำมาดับไฟจนเกือบดับสนิทแล้ว ซึ่งตัวบ้านส่วนใหญ่นั้นยังไม่ได้รับความเสียหายมากนัก มีเพียงบริเวณตรงที่นอน และฝาผนังใกล้หัวนอนของผู้ตายถูกไฟไหม้ไปเพียงบางส่วน และที่บริเวณหลังคามีกระเบื้องแตกเป็นรูโหว่เล็กน้อยเพียง 4 แผ่น ขณะเดียวกัน ที่พื้นบ้านยังพบร่องรอยคราบเลือดหยดเป็นกอง และมีรอยลากถูของคราบเลือดติดอยู่ที่พื้นบ้านหลายจุด
 
                เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัว นายบรรยง เฟื่องเจริญ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นหลาน หรือบุตรของน้องสาวน ายสังเวียน ที่มาพักอาศัยหลับนอนอยู่กินด้วยภายในบ้านหลังเดียวกันนี้ และอยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุเพียงลำพัง 3 คน ในขณะที่นายสังเวียน กำลังนอนไกวเปลเลี้ยงหลานอยู่บนที่นอน ประกอบด้วย นายสังเวียน นายบรรยง และ ด.ญ.ชลธิชา จันทรังษี หลานสาววัย 1 ขวบ 10 วัน ซึ่งเป็นบุตรสาวของ นางราตรี จันทรังษี อายุ 38 ปี บุตรของนายสังเวียน เท่านั้น
 
                จากการสอบสวน นางราตรี บุตรสาวของผู้เสียชีวิตให้การว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่อยู่บ้านโดยออกไปทำงานที่ร้านขายของของทางญาติ ส่วนสามีนั้นมีอาชีพขับรถบรรทุก 10 ล้อ บรรทุกดินนั้นไม่อยู่บ้านด้วยเช่นเดียวกัน โดยหลังจากออกไปทำงานได้สักพักจึงรู้สึกว่ามีลางสังหรณ์อย่างผิดปกติ จึงได้รีบเดินทางกลับเข้ามาที่บ้านพัก จนมาพบว่า บ้านพักกำลังมีเพลิงลุกไหม้อยู่ภายในบ้าน โดยที่มีบรรดาญาติๆ พี่น้องที่ปลูกบ้านอยู่ใกล้เคียงกันกำลังช่วยกันดับไฟอยู่ในที่เกิดเหตุ
 
                หลังสอบถามเหตุการณ์จากทางญาติลูกพี่ลูกน้องกันแล้วนั้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นายบรรยง ได้อุ้ม ด.ญ.ชลธิชา เอาไปฝากไว้ที่บ้านของญาติโดยบอกว่า ไฟฟ้าช็อตไหม้บ้าน จากนั้นจึงได้ทำทีวิ่งตามญาติๆ ที่อยู่รายรอบให้เข้ามาช่วยกันดับไฟ ซึ่งตนเองยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุขึ้นได้อย่างไร ซึ่งปกติแล้ว นายบรรยง กับบิดาของตนนั้นก็ไม่เคยมีปากเสียงทะเลาะกันมาก่อน และน้องชายลูกของน้าสาวรายนี้ก็ได้เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยยังภายในบ้านเดียวกันนานแล้ว เพราะสงสารที่เห็น นายบรรยง นั้นยังต้องเลี้ยงดูมารดาซึ่งเป็นน้องสาวของบิดาตน ที่เป็นผู้พิการด้วย

แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้มีงานบวชนาคที่วัดหัวกระสังข์ นายบรรยง ได้เดินทางไปช่วยงาน และดื่มสุรากลับมาจนเมามาย จนถึงขณะนี้ก็ยังคงอยู่ในอาการมึนเมาอยู่ จึงยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
 
                ด้าน ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางชุดสืบสวนได้ทำการควบคุมตัว นายบรรยง นำเอาไปสอบสวนไว้แล้ว ที่ สภ.บ้านโพธิ์ เบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมผู้เป็นลุง แต่หลังจากตรวจในที่เกิดเหตุแล้วพบร่องรอยพิรุธหลายอย่าง ทั้งที่มีร่องรอยหยดเลือด และกองเลือดกองอยู่บนพื้นที่บ้าน ตลอดจนรอยลากของคราบเลือดในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีค้อน และมีดทำครัวมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย จึงได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
 
                ส่วนผู้ต้องสงสัยนั้นเคยมีประวัติเสพยาเสพติด และหลังเกิดเหตุในวันนี้ยังพบ นายบรรยง มีบาดแผลแตกที่ศีรษะด้วย จึงได้ประสานไปทางเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ให้เดินทางมาทำการตรวจที่เกิดเหตุ และเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเอาไว้แล้ว จึงเชื่อว่าหากผู้เสียชีวิตถูกหลานชายฆาตกรรมจนเสียชีวิต และจุดไฟเผา ก็คงจะทราบผลได้อย่างชัดเจนในไม่ช้า หลังจากการส่งศพไปผ่าชันสูตรทางนิติเวชแล้ว
 
                ขณะที่ นพ.อภิชาติ สุนทร แพทย์เวรประจำ รพ.บ้านโพธิ์ กล่าวว่า หลังการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบร่องรอยยุบคล้ายถูกตีด้วยของไม่มีคมที่ศีรษะ จำนวน 2 จุด คือ ที่เหนือท้ายทอย 1 แผล ที่กลางศีรษะ 1 แผล และยังพบกองเลือดไหลนองอยู่ใต้ศพเต็มพื้นบ้าน ที่จุดพบศพของผู้เสียชีวิตด้วย อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการส่งศพไปให้แพทย์ทางนิติเวชทำการผ่าชันสูตรโดยละเอียดต่อไป