เพชรบูรณ์ - อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ นำทีมเถ้าแก่ม้งเจ้าของรีสอร์ต จี้รัฐชะลอใช้คำสั่ง หน.คสช.35/59 เคลียร์ปัญหาที่ดินภูทับเบิก อ้างชาวบ้านงง! นโยบาย 3-8-8 ให้รื้อบางส่วน ม.44 กลับสั่งรื้อเรียบแถมไม่ต้องรอศาลซ้ำ ขู่จากนี้รื้ออีกฟ้องทั้งแพ่ง อาญา
นายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกลุ่มตัวแทนเจ้าของรีสอร์ตบนภูทับเบิก ซึ่งมีราษฎรชาวม้งเป็นเจ้าของ และผู้ประกอบจำนวนราว 10 ราย เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ สุดสัปดาห์นี้ เพื่อขอให้ชะลอการปฏิบัติตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/59 กรณีมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก
นายยุพราช อ้างว่า คำสั่งกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ที่ราษฎรชาวม้งครอบครองทำประโยชน์มิใช่ป่าตามมาตรา 4(1) พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่เป็นที่ดินที่ครอบครองสืบสิทธิต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษดั้งเดิม โดยเมื่อปี 2509 ครม.มีมติให้ยกเลิกพื้นที่ป่า และกำหนดให้เป็นเขตที่ดินจัดสรรเพื่อเกษตรกรรม และเพื่อประโยชน์อย่างอื่น จัดตั้งเป็นนิคมสงเคราะห์ชาวเขา
“เราขอให้ชะลอการรื้อทำลายสิ่งปลูกสร้างเพื่อรอผลการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศของกรมแผนที่ทหาร หากมีการฝ่าฝืนบุกรุกทำลายทรัพย์สินราษฎร พร้อมจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญา”
ขณะที่ นายมงคล เถารักตระกุล และนายท้าย แซ่สง 2 ตัวแทนเจ้าของรีสอร์ตระบุว่า 2 ปีที่ผ่านมา การรื้อถอนรีสอร์ตก็กระทบจิตใจ กระทบการทำมาหากินของชาวบ้าน ซึ่งธุรกิจที่ทำเพียงเพื่อเลี้ยงปากท้องเท่านั้น อยากให้รัฐบาลทบทวนกฎหมายที่จะดำเนินการต่อภูทับเบิก และฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แก้ปัญหาให้ราษฎรชาวภูทับเบิกด้วย
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังสับสนต่อนโยบาย 3-8-8 ซึ่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง จึงรื้อถอนออก เหลือไว้แต่สิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง แต่ภายหลังกลับมาถูกมาตรา 44 ให้รื้อถอนทั้งที่ยังไม่ได้ขึ้นศาล และยังไม่รู้ผิดตรงไหน และยังถูกปิดประกาศไม่ให้เปิดบริการอีก
ด้าน นายสมบูรณ์ ศรีไพศาลเจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เป็นผู้แทนรับหนังสือ ชี้แจงว่า การดำเนินการที่ผ่านมาพยายามให้กระทบชาวบ้านให้น้อยที่สุด ส่วนอีกด้านต้องดูข้อกฎหมายไม่ให้ถูกกล่าวหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ บางเรื่องอยู่เหนือขอบข่ายอำนาจทางจังหวัด ก็จะต้องส่งไปให้รัฐบาลพิจารณา แต่ทั้งนี้ รับปากจะเร่งส่งหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัด พิจารณาโดยเร็ว
