นครปฐม - เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเจ้าของโรงงานทอผ้า มูลค่ากว่ากว่า 16 ล้านบาท วันเดี่ยวกัน เพลิงไหม้โรงงานแยกพลาสติก สูญไปกว่า 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 มิ.ย) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านหรูเจ้าของโรงงานทอผ้า มูลค่า 16 ล้านบาท กลางดึก เจ้าของเห็นเหตุการณ์เพลิงกำลังลุกไหม้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระ จึงพยายามเข้าไปดับเพลิงจนถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่สามารถดับได้ จึงต้องตะโกนให้คนในบ้านรีบหนีตาย จนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน คาดความเสียหายไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท
โดย พ.ต.ท.ตำรวจโท ณรงค์ฤทธิ์ เมืองฮาม พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุบ้านพักหรู 2 ชั้น เจ้าของโรงงานบริษัท ไทยอินเตอร์นิต แฟคเทอรี่ จำกัด (ทอผ้า) เลขที่ 23/2 ตำบลท่าตลาด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นของ นายอธิวัฒน์ ชัยชาญการช่าง อายุ 64 ปี
พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากชั้นที่ 2 และลุกลามออกมาโดยรอบอาคารด้านหน้าของบ้าน โดยมีรถดับเพลิงจาก อบต.ท่าตลาด และใกล้เคียง จำนวน 3 คัน ฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกลามอยู่ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย โดยได้ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.สามพราน เนื่องจากช่วยกันเก็บของในที่เกิดเหตุได้รับแผลพุพองคนละเล็กละน้อย
โดย นายอธิวัฒน์ และนายธันวา ชัยชาญการช่าง อายุ 33 ปี บุตรชายเจ้าของบ้านได้เข้ามาในที่เกิดเหตุ และทราบข้อมูลว่า เพลิงที่ไหม้เกิดจากการจุดธูปบูชาพระเอาไว้ หลังเกิดเพลิงลุกไหม้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระภายในบ้าน โดย นายอธิวัฒน์ พยายามเข้าไปดับต้นเพลิง แต่ไม่สามารถดับได้ จึงได้ตะโกนเรียกให้คนภายในบ้านวิ่งหนีออกจากบ้าน และก็ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกตามตัว และที่ขา จำนวน 3 คน รวมทั้งตนเองด้วย โดยกล่าวว่า บ้านหลังนี้สร้างในราคากว่า 16 ล้านบาท ส่วนมูลค่าเสียหายคาดว่าประมาณ 3 ล้านบาท เนื่องจากมีรถดับเพลิงเข้ามาช่วยสกัดเพลิงในวงจำกัดไว้ได้ จึงเสียหายไม่หมดทั้งหลัง
โดยเวลาใกล้เคียงกัน ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงงานแยกพลาสติก สูญไปกว่า 10 ล้านบาท เป็นโรงคัดแยกอุปกรณ์ไฟฟ้า และพลาสติก กลางดึกในพื้นที่อำเภอบางเลน ต้องระดมรถน้ำ และรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าควบคุมนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่สกัดเอาไว้ไม่ได้ ทำให้ตัวโรงเก็บสินค้าและเครื่องจักรถูกเพลิงเผาวอดหมดทั้งหลัง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ร.ต.ท. หญิง อภิญญา อ่วมบุญมี พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน รับแจ้งเหตุเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงคัดแยกอุปกรณ์ไฟฟ้าและพลาสติก “นำเจริญรีไซเคิล” เลขที่ 152 หมู่ 8 ตำบลบางระกำ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บางระกำ อบต.วัดละมุด อบต.สามควายเผือก เทศบาลตำบลลำพญา เทศบาลตำบลนครชัยศรี และบริเวณใกล้เคียงกว่า 10 คัน
เมื่อไปถึงเป็นบ้านหรู ของ นายสมพร บุญใหญ่เอก อายุ 44 ปี บริเวณเกิดเหตุมีเนื้อที่ จำนวน 3 ไร่ พบว่าเพลิงได้กำลังลุกไหม้ตัวอาคารโครงสร้างเหล็กอย่างรุนแรง และเป็นบริเวณกว้าง โดยต้องระดมขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เพื่อเร่งระดมฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วน แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ต่อมา นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอบางเลน ได้รุดมายังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ และสอบถาม นายชิษณุปากร สุดสีขาว อายุ 44 ปี คนงานที่เฝ้าดูแลอยู่ ได้ชี้แจงถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า เห็นมีสะเก็ดไฟด้านบนอาคารร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง และเกิดไฟลุกไหม้ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบไปตักน้ำมาเพื่อพยายามดับ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงได้แจ้งเหตุขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสงบ แต่ตัวอาคาร และสิ่งของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คัดแยกจำนวนมาก รวมทั้งเม็ดพลาสติก และเครื่องจักรอีกหลายเครื่องถูกเพลิงเผาผลาญจนวอดหมดทั้งหลัง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอผลตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 มิ.ย) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านหรูเจ้าของโรงงานทอผ้า มูลค่า 16 ล้านบาท กลางดึก เจ้าของเห็นเหตุการณ์เพลิงกำลังลุกไหม้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระ จึงพยายามเข้าไปดับเพลิงจนถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่สามารถดับได้ จึงต้องตะโกนให้คนในบ้านรีบหนีตาย จนได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน คาดความเสียหายไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท
โดย พ.ต.ท.ตำรวจโท ณรงค์ฤทธิ์ เมืองฮาม พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุบ้านพักหรู 2 ชั้น เจ้าของโรงงานบริษัท ไทยอินเตอร์นิต แฟคเทอรี่ จำกัด (ทอผ้า) เลขที่ 23/2 ตำบลท่าตลาด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นของ นายอธิวัฒน์ ชัยชาญการช่าง อายุ 64 ปี
พบเพลิงกำลังลุกไหม้จากชั้นที่ 2 และลุกลามออกมาโดยรอบอาคารด้านหน้าของบ้าน โดยมีรถดับเพลิงจาก อบต.ท่าตลาด และใกล้เคียง จำนวน 3 คัน ฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงที่กำลังลุกลามอยู่ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย โดยได้ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.สามพราน เนื่องจากช่วยกันเก็บของในที่เกิดเหตุได้รับแผลพุพองคนละเล็กละน้อย
โดย นายอธิวัฒน์ และนายธันวา ชัยชาญการช่าง อายุ 33 ปี บุตรชายเจ้าของบ้านได้เข้ามาในที่เกิดเหตุ และทราบข้อมูลว่า เพลิงที่ไหม้เกิดจากการจุดธูปบูชาพระเอาไว้ หลังเกิดเพลิงลุกไหม้ที่โต๊ะหมู่บูชาพระภายในบ้าน โดย นายอธิวัฒน์ พยายามเข้าไปดับต้นเพลิง แต่ไม่สามารถดับได้ จึงได้ตะโกนเรียกให้คนภายในบ้านวิ่งหนีออกจากบ้าน และก็ได้รับบาดเจ็บถูกไฟลวกตามตัว และที่ขา จำนวน 3 คน รวมทั้งตนเองด้วย โดยกล่าวว่า บ้านหลังนี้สร้างในราคากว่า 16 ล้านบาท ส่วนมูลค่าเสียหายคาดว่าประมาณ 3 ล้านบาท เนื่องจากมีรถดับเพลิงเข้ามาช่วยสกัดเพลิงในวงจำกัดไว้ได้ จึงเสียหายไม่หมดทั้งหลัง
โดยเวลาใกล้เคียงกัน ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงงานแยกพลาสติก สูญไปกว่า 10 ล้านบาท เป็นโรงคัดแยกอุปกรณ์ไฟฟ้า และพลาสติก กลางดึกในพื้นที่อำเภอบางเลน ต้องระดมรถน้ำ และรถดับเพลิงกว่า 10 คัน เข้าควบคุมนานกว่า 1 ชั่วโมง แต่สกัดเอาไว้ไม่ได้ ทำให้ตัวโรงเก็บสินค้าและเครื่องจักรถูกเพลิงเผาวอดหมดทั้งหลัง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ร.ต.ท. หญิง อภิญญา อ่วมบุญมี พนักงานสอบสวน สภ.บางเลน รับแจ้งเหตุเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงคัดแยกอุปกรณ์ไฟฟ้าและพลาสติก “นำเจริญรีไซเคิล” เลขที่ 152 หมู่ 8 ตำบลบางระกำ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.บางระกำ อบต.วัดละมุด อบต.สามควายเผือก เทศบาลตำบลลำพญา เทศบาลตำบลนครชัยศรี และบริเวณใกล้เคียงกว่า 10 คัน
เมื่อไปถึงเป็นบ้านหรู ของ นายสมพร บุญใหญ่เอก อายุ 44 ปี บริเวณเกิดเหตุมีเนื้อที่ จำนวน 3 ไร่ พบว่าเพลิงได้กำลังลุกไหม้ตัวอาคารโครงสร้างเหล็กอย่างรุนแรง และเป็นบริเวณกว้าง โดยต้องระดมขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เพื่อเร่งระดมฉีดน้ำสกัดอย่างเร่งด่วน แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก
ต่อมา นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายอำเภอบางเลน ได้รุดมายังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ และสอบถาม นายชิษณุปากร สุดสีขาว อายุ 44 ปี คนงานที่เฝ้าดูแลอยู่ ได้ชี้แจงถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า เห็นมีสะเก็ดไฟด้านบนอาคารร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง และเกิดไฟลุกไหม้ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบไปตักน้ำมาเพื่อพยายามดับ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ จึงได้แจ้งเหตุขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
โดยใช้เวลาในการควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสงบ แต่ตัวอาคาร และสิ่งของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คัดแยกจำนวนมาก รวมทั้งเม็ดพลาสติก และเครื่องจักรอีกหลายเครื่องถูกเพลิงเผาผลาญจนวอดหมดทั้งหลัง มูลค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอผลตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
