บึงกาฬ - ผบก.ภ.จว.บึงกาฬสั่ง 2 นายตำรวจ สภ.บุ่งคล้าออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยร้ายแรง หลังถูกตำรวจบ้านแพง นครพนมจับกุมพร้อมสาวลาวขณะส่งยาบ้า ยึดของกลางได้เกือบ 2000 เม็ด ลั่นหากสอบแล้วพบเอี่ยวค้ายานรกจริงต้องให้ออกราชการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นครพนม ได้จับกุม นางพอน (ไม่มีนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาวบ้านโพนสี เมืองปากกระดิ่ง แขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,966 เม็ด ขณะนั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีฟ้า หมายเลขทะเบียน กบ 4775 อุดรธานี นำยาบ้าของกลางมารอส่งลูกค้าบริเวณถนนคอนกรีตสาธารณะ หน้าวัดป่า บ.นายาง หมู่ที่ 6 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว พบ 2 นายตำรวจนั่งอยู่ในรถ ทราบชื่อภายหลังคือ ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ม่วงผุย อายุ 47 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ และ ร.ต.ต.ผล พลโคตร อายุ 55 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน ทั้ง ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ และ ร.ต.ต.ผล พลโคตร ต่างให้การปฏิเสธ ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นการค้ายาบ้าของนางพอน ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ล่าสุดวันนี้ (14 มิ.ย.) พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจทั้ง 2 นาย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังได้รับการรายงานจาก ผกก.สภ.บุ่งคล้า ในส่วนคดีอาญาก็คงเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของ สภ.บ้านแพงดำเนินคดีไป
แต่ในส่วนของ ภ.จว.บึงกาฬก็จะดำเนินการทางวินัย เพราะถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกระทำความผิดทางอาญา เบื้องต้นถึงแม้ตำรวจทั้งสองนายจะให้การปฏิเสธไม่ได้กระทำผิด แต่ในทางวินัยการที่ถูกจับกุมคดีอาญาถือว่าผิดวินัยร้ายแรง จึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ที่ 280/2560 ฐานร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมมาย
ขณะเดียวกันก็สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ที่ 299/2560 หากผลสอบสวนออกมามีความผิดจริงก็ให้ออกราชการได้เลย ส่วนระยะเวลาการสอบสวนก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการอีกที ส่วนตำรวจทั้ง 2 นายก็สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ได้ตามสิทธิภายใน 30 วัน