วงจรปิดจับภาพรถพ่วงบรรทุกซีเมนต์หลบเก๋งพลิกคว่ำ หวิดทับคนดับ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - หวิดเกิดโศกนาฏกรรม วงจรปิดจับภาพรถพ่วงบรรทุกแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป หักหลบรถเก๋งพลิกคว่ำ แผ่นคอนกรีตหนักหลายตันหล่นขวางถนน ทับรถตุ๊กตุ๊กที่จอดช่วยเหลือ 3 ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณดังกล่าวเข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น มิเช่นนั้นอาจถูกปูนทับได้

เมื่อเวลาประมาณ 12.20 น.วันนี้ (12 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถพ่วงคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยรถที่เกิดเหตุขวางถนนอยู่บริเวณถนนสายอัสสัมชัญ-หนองค้อ หมู่ที่ 7 ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา

ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วงยี่ห้อฮีโน่ หัวสีเขียว จอดขวางถนนอยู่ โดยส่วนหัวหมายเลขทะเบียน 70-5157 พระนครศรีอยุธยา และส่วนหางหมายเลขทะเบียน 83-2182 พระนครศรีอยุธยา พลิกคว่ำ มีแผนคอนกรีตสำเร็จรูปจำนวนกว่า 10 แผ่น หนักรวมกว่าตัน ที่จะเตรียมนำไปประกอบบ้านตกขวางถนน มีรถตุ๊กตุ๊ก หมายเลขทะเบียน สก 937 ชลบุรี ได้รับความเสียหาย จอดอยู่ริมถนน

โดยมี นายสุทระ แสนกันยา อายุ 51 ปี รับว่าเป็นผู้ขับรถพ่วงคันดังกล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า ตนได้ขับรถพ่วงมาจากโรงงานในอำเภอบ้านบึง เพื่อที่จะมาส่งแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปที่หมู่บ้านเอื้ออาทรไร่กล้วย พอมาถึงจุดที่เกิดเหตุตนขับมาเลนกลาง ก็มีรถกระบะขับนำหน้าตนแล้วก็จอดเลนขวาสุด เพื่อเตรียมจะเลี้ยวกลับรถ เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรถเก๋งสีขาวที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านสะดวกซื้อ หักพวกมาลัยรถเลี้ยวออกมา ตนเห็นดังนั้นจึงเหยียบเบรก และหักพวงมาลัยหลบรถเก๋ง เป็นเหตุให้ส่วนพ่วงหางที่บรรทุกคอนกรีตซึ่งมีน้ำหนักมากกระแทกส่วนหัวรถ จนทำให่ส่วนหางเสียหลักพลิกคว่ำลงมาดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว มิเช่นนั้นอาจได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตก็ได้

ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดีที่ก่อนหน้านี้ประมาณ 10 นาที ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มตรงบริเวณที่เกิดเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ได้แก่ น.ส.ยุพิณ แซ่อึ้ง อายุ 37 ปี นางอรพรรณ พวงดารา อายุ 49 ปี และ ด.ช.ภูมิพัฒน์ รุ่งเรือง อายุ 2 ขวบ แต่พลเมืองดีได้ช่วยเหลือนำผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามารอบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมารับไปรักษาที่โรงพยาบาล และต่อมาไม่ถึง 10 นาที ก็เกิดเหตุรถพ่วงพลิกคว่ำ ซึ่งถ้ายังนั่งอยู่กันบริเวณนั้นก็อาจจะได้รับอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้