สุโขทัย - หมอเตือน! ห้ามกินเด็ดขาด อันตรายถึงชีวิตได้เลย สองยายชาวสุโขทัยกลืนเม็ดกระท้อนลงท้องถึงขั้นไส้ทะลุ-ติดเชื้อในกระแสเลือด หมอผ่าตัดช่วยชีวิตแต่ยังอาการโคม่า เผยมีคนกินแล้วตายมาแล้ว
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอผู้ป่วยหนักโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย มีผู้ป่วยเป็นหญิงสูงอายุจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ นางมาย อายุ 66 ปี และนางบังเอิญ อายุ 68 ปี (ขอสงวนนามสกุล) มาเข้ารับการผ่าตัดและรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู หลังกินเม็ดกระท้อนเข้าไปจนแทงลำไส้ใหญ่ทะลุ ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องท้อง และในกระแสเลือด
ญาติของนางมายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นางมายไปเก็บกระท้อนจากต้นข้างบ้านมานั่งกินกับลูกหลาน แล้วเกิดหัวเราะทำให้เผลอกลืนเม็ดเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ จนรุ่งเช้าอีกวันก็มีอาการปวดท้องรุนแรง ขับถ่ายไม่ออก ญาติจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล ก่อนแพทย์จะช่วยผ่าตัดเมื่อ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา แล้วเจอเม็ดกระท้อน 2 เม็ดแทงทะลุลำไส้ใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก็มีหญิงสูงอายุในหมู่บ้านใกล้ๆ กันกินเม็ดกระท้อนเข้าไปจนเสียชีวิตรายหนึ่งด้วย
ขณะที่ญาติของนางบังเอิญเปิดเผยว่า นางบังเอิญกินเม็ดกระท้อนเข้าไป 4 เม็ด โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดอันตราย เพราะคนในหมู่บ้านต่างก็ชอบกินเม็ดกระท้อนกันจนกลายเป็นเรื่องปกติ แล้วเกิดอาการปวดท้องรุนแรงเหมือนใจจะขาด ญาติจึงรีบพาส่งโรงพยาบาล เข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นพ.พรชัย สินคณารักษ์ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยทั้ง 2 รายนี้มาในอาการเดียวกัน คือ ปวดท้องรุนแรง จึงได้ทำการเอกซเรย์ แล้วก็พบว่าลำไส้ใหญ่ทะลุ เมื่อผ่าตัดก็พบเม็ดกระท้อน รายหนึ่ง 2 เม็ด อีกรายหนึ่ง 4 เม็ด รวมทั้งพบมีการติดเชื้อในช่องท้อง และในกระแสเลือดด้วย ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย
“ผู้ป่วยที่ลำไส้ใหญ่ทะลุอาการจะรุนแรงมาก รุนแรงยิ่งกว่าไส้ติ่งแตกหลายเท่า เพราะมีการติดเชื้อ มีโอกาสเสียชีวิตได้ หมอเองก็เจอผู้ป่วยในลักษณะนี้ 3-5 รายทุกปี จึงฝากเตือนให้เลิกกิน เพราะเม็ดกระท้อนมีส่วนที่แหลมคมทำให้แทงลำไส้ทะลุ จนเกิดการติดเชื้อ เสี่ยงเสียชีวิตได้ ไม่คุ้มค่ากันเลย” นพ.พรชัยกล่าวด้วยความห่วงใย
ด้าน นพ.เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย กล่าวว่า การกินเม็ดกระท้อนมีอันตรายถึงชีวิต เพราะเม็ดมีความแข็งแหลมคม โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะลำไส้ทำงานไม่ค่อยดี ทำให้ลำไส้ทะลุจนติดเชื้อในช่องท้องและในกระแสเลือด เสี่ยงเสียชีวิตได้ จึงขอฝากเตือนให้เลิกกิน
นอกจากนี้ ยังเคยพบผู้ป่วยที่ชอบกินขนุนในปริมาณมากๆ จนทำให้ลำไส้อุดตัน และทะลุได้อีกด้วย โชคดีไม่เสียชีวิต แพทย์ช่วยรักษาไว้ได้ทัน