ชายฉกรรจ์บุกยึดรถหักหนี้แม่ค้าอาหารทะเลเมืองจันท์ กลางถนน

จันทบุรี - แม่ค้าอาหารทะเลโร่แจ้งความ หลังถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ขับรถยนต์ 2 คัน มาประกบรถแม่ค้าอาหารทะเล และถูกเคาะกระจกรถให้คุยกัน ก่อนยึดรถพร้อมถังอาหารทะเลราคานับแสนบาทไป สุดท้ายเป็นเรื่องของการทวงหนี้ที่ลูกสาวแม่ค้าอาหารทะเลติดหนี้ไว้

วันนี้ (7 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจขลุง ได้รับแจ้งจาก นางวันเพ็ญ ท่าพริก หรือต้อย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141/41 หมู่ที่ 4 ตำบลหนองเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดตราด ว่า รถกระบะบรรทุกอาหารทะเลที่จะไปส่งที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ถูกชายฉกรรจ์ 4 คน ยึดทั้งรถ และอาหารทะเลที่บรรทุกมานำไปไว้ในบ้านหลังหนึ่ง อยู่ใกล้วัดวันยาวล่าง หมู่ที่ 3 ตำบลวันยาว อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบด้วย

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็กลายเป็นเรื่องของการทวงหนีที่ลูกสาวของ นางวันเพ็ญ ท่าพริก ได้ติดหนี้ไว้กว่าแสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยให้ทั้งคู่เจรจากันก่อน แล้วจึงเชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปที่โรงพัก

สอบถาม นายนิพันธ์ ขันนาก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ที่ 3 ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ซึ่งเป็นคนขับรถที่บรรทุกทุกอาหารทะเล เผยว่า ตนเองขับรถมาติดไฟแดงที่อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เพื่อจะไปส่งอาหารทะเลที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อยู่ๆ ในขณะที่จอดติดไฟแดงอยู่นั้น ก็มีชายฉกรรจ์ 4 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน ขับมาประกบรถของตนเอง แล้วมี 1 ใน 4 ชายฉกรรจ์เดินมาเคาะกระจกเพื่อพูดคุย พร้อมพูดว่า ห้ามไปไหนต้องไปด้วยกัน

จากนั้นก็มีชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งมานั่งคุมในรถของตนเอง บอกให้ขับรถไปที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่มีการข่มขู่ พูดคุยดี พร้อมกับอธิบายว่า ของบนรถคันนี้เป็นของเถ้าแก่ผม ต้องยึดไปเพื่อหักหนี้กัน เมื่อมาถึงที่บ้านเถ้าแก่เจ้าของบ้านก็นำน้ำมาให้ดื่ม พร้อมกับพูดคุยถึงสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้

จากการพูดคุยกับ นายสุธี จริตงาม อายุ 37 ปี เจ้าของบ้านที่ยึดรถบรรทุกอาหารทะเลมาจอดนั้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ปู ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางวันเพ็ญ ท่าพริก ได้ติดหนี้ค่าอาหารทะเลของตนเป็นเงินแสนกว่าบาท แล้วเงียบหายไปไม่สามารถติดต่อได้เลย

เมื่อตนเห็นว่ามีรถบรรทุกอาหารทะเลแล้วมีชื่อที่ถังว่า เจ๊ต้อย ไก่ชน ซึ่งเป็นชื่อถัง และสีเดียวกันที่นำมาใส่อาหารทะเลไป แล้วเบี้ยวเงินของตนเองจึงต้องหาวิธีที่จะให้มาคุยกันโดยการนำรถมาที่บ้านของตน แต่กลับเป็นว่า นางวันเพ็ญ ไม่รับผิดชอบ เพราะว่าตนไม่เกี่ยว ลูกสาวของตนที่เป็นคนติดหนี้ ไม่ใช่ตนเอง แล้วลูกสาวก็ไม่ติดต่อกับแม่นานแล้ว พร้อมกับทำเสียงดังว่า แบบนี้มันไม่ใช่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไกล่เกลี่ยให้ยอมความกัน โดยให้ทาง นายสุธี จริตงาม คืนของให้ไปแล้วมาตกลงกันเรื่องหนี้สินอีกที