ศูนย์ข่าวขอนแก่น-เรือนจำกลางขอนแก่นเตรียมประสาน จนท.สังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยกับ”เปรี้ยว”ให้คลายเครียดหลังพบมีอาการเครียด หวั่นฆ่าตัวตายหนีความผิด ขณะที่พนักงานสอบสวนเขาสวนกวางเดินหน้าเรียกพยานแวดล้อมในจุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพมาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนคดีรัดกุม น่าเชื่อถือ
วันนี้(6มิ.ย.)นายวีรชัย เพชรรัตน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวานนี้ ศาลจังหวัดขอนแก่นได้นำตัว นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว นางสาวกวิตา ราชดา หรือเอิร์น และนางสาวอภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ 3 ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าหั่นศพนางสาว วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือแอ๋ม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง ได้ขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมด พลัดที่1 เป็นเวลา 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว
โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เมื่อเข้าสู่แดนหญิง ได้มีเจ้าหน้าที่หรือพี่เลี้ยง 2 คน ต่อการ คุมตัวผู้ต้องขัง 1 คน พร้อมทั้งให้เรียนรู้ถึงการเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้วต้องวางตัวอย่างไร เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคุมขัง เพื่อรอการติดสินคดีของศาล โดยพี่เลี้ยงจะคอยรายงานพฤติกรรมให้ทราบทุกวัน
นายวีรชัยเล่าต่อว่า ทันทีที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาถึง เรือนจำได้นำของใช้ กระเป๋าส่วนตัวของแต่ละคนเก็บไว้ ก่อนภายในเรือนจำ โดยทางเรือนจำให้เพียงขันน้ำ สบู่ ยาสีฟัน เครื่องใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังรายอื่น ขณะนี้ผู้ต้องขังทั้ง 3 คน ยังคงอยู่ในอาการเหนื่อยล้า เนื่องจากเมื่อวานนี้ มีการคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งวัน และมีการ สอบปากคำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ผู้ต้องขังแดนหญิงนั้น เจ้าหน้าที่ได้คอยสังเกตุอาการของผู้ต้องหาทั้ง 3 อย่างใกล้ชิด พบว่า นางสาววาริศราหรือเปรี้ยวยังมีการอาการเครียดอยู่ เพราะยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพในเรือนจำได้ ซึ่งทางเรือนจำเตรียมประสาน เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยให้คลายเครียด คลายข้อวิตกกังวล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาฆ่าตัวตายหนีความผิด
“มั่นใจว่าเรือนจำกลางขอนแก่น มีมาตรการที่รัดกุมในการควบคุมผู้ต้องหาคดีอุจกรรจ์ และในวันนี้จะมีการแยก การควบคุมตัว โดยจะไม่ให้อยู่รวมกัน และจะไม่ให้อยู่รวมกับนางสาวจิดารัตน์ พรหมคุณ ที่ถูกฝากขังก่อนหน้านี้เช่นกัน”
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวาง เตรียมเรียกพยานแวดล้อมในจุดที่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้สอบปากคำไป แล้วกว่า 20 ปาก เพื่อให้สำนวนมีความน่าเชื่อถือในการดำเนินคดีผู้ต้องทั้ง 5 คน ที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ
สำหรับเลื่อยธนูที่ใช้ในการหั่นร่างของน้องแอ๋ม ที่พบในเขตพื้นที่อำเภอน้ำพอง ซึ่งเป็นอำเภอติดกับอำเภอเขาสวนกวาง ห่างไปประมาณ 15 กิโลเมตร ภายในหนองน้ำ บ้านหนองหานจาง ตำบล น้ำพอง นั้นเป็นเลื่อยที่ใช้ก่อเหตุ เนื่องจากเปรี้ยวได้ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ได้นำเลื่อยไปทิ้งจุด ดังกล่าว ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ
แต่อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนกำลังรอผลตรวจ DNA ตำรวจ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ที่ได้เก็บจากตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คน และในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่เปรี้ยวได้ลงมือหั่นศพแอ๋ม คาดว่าจะได้ผลตรวจภายในเดือนนี้ ซึ่งหากได้ไม่ทันในช่วงระหว่างการ ฝากขังผู้ต้องหา ในพลัดที่ 1 ทางพนักงานสอบสวนจะขอฝากขังพลัดที่ 2 กับทางศาลจังหวัดขอนแก่นต่อไป เพื่อให้หลักฐาน และสำนวนในคดีนี้ ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด
“ขณะนี้คำให้การของเปรี้ยวเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ที่สารภาพว่าเป็นคนลงมือ หั่นศพร่วมกับนายวศิน นามพรหม แต่คัดแย้งกับนายวศินที่สารภาพว่าเป็นเพียงคนดูต้นทางเท่านั้น”พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าว