< strong> ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอบางละมุง สนธิกำลังทหาร ตำรวจ บุกจับอู่แต่งรถ จยย.ให้เยาวชนซิ่งประลองความเร็ว สร้างความเดือดร้อนให้ชาวพัทยา เบื้องต้น ตรวจยึดรถ จยย.แต่งซิ่ง 25 คัน และอะไหล่แต่งซิ่งเพียบ strong>
ค่ำวานนี้ (2 มิ.ย.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร สังกัดกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา เข้าตรวจค้นที่ร้านกิตติพัศอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ ตั้งอยู่เลขที่ 320/13-14 ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
จากการตรวจสอบพบว่า ร้านดังกล่าวเป็นอู่ซ่อมรถ และแต่งซิ่งดัดแปลงสภาพรถจักรยานยนต์ให้แก่กลุ่มวัยรุ่นที่นิยมความแรง โดยบริเวณหน้าร้านมีวัยรุ่น จำนวน 3 คน กำลังนั่งแต่งเครื่องยนต์อยู่ โดยมี นายอาทิตย์ จันทร์หอม อายุ 30 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์สภาพแต่งซิ่งรวม 25 คัน ซึ่งทางร้านอ้างว่า เป็นของลูกค้าที่ได้เอามาซ่อม และดัดแปลงสภาพ
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจพบท่อไอเสียดัดแปลงสภาพให้เสียงดังรวม 20 ใบ และเศษซากอะไหล่จำนวนมาก รวมถึงอุปกรณ์แต่งรถจักรยานยนต์ที่ไม่มีมาตรฐาน มอก. อีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้น จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ประกอบการกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์) โดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นายอำเภอบางละมุง เผยว่า การจับกุมอู่แต่งซิ่งจักรยานยนต์แห่งนี้ สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่เมืองพัทยา เข้ามามั่วสุม และเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์ที่มีท่อเสียงดังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในพื้นที่ จึงลงพื้นที่หาข่าว จนกระทั่งทราบว่า อู่ซ่อมรถแห่งนี้ เป็นของ “ช่างเบิร์ด” ช่างแต่งรถจักรยานยนต์ขึ้นชื่อของเมืองพัทยา โดยเป็นขวัญใจในกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่นิยมความเร็ว และแรง
โดยกลุ่มวัยรุ่นก่อนจะนัดรวมตัวกันมาประลองความเร็วบนถนนหลวงเส้นต่างๆ เช่น ถนนสาย 331 ถนนมอเตอร์เวย์ สาย 7 ตอน 5 ถนนสาย 36 และถนนจอมเทียนสายสองตัดใหม่ อยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังหลายฝ่ายปิดล้อมตรวจค้น และจับกุมดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของ คสช.อีกด้วย ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจสอบไม่พบตัวเจ้าของร้าน โดยผู้ดูแลร้านอ้างว่าออกไปซื้ออะไหล่เพื่อจะนำมาซ่อมรถให้แก่ลูกค้า
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะได้อายัดรถจักรยานยนต์ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบหาที่มาว่าถูกแจ้งหายไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากสอบสวนพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดของนโยบาย คสช. ก็จะถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดด้วยเช่นกัน อีกทั้งได้ฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง หากปล่อยปละละเลยให้ลูกหลานเยาวชนออกมามั่วสุมเพื่อการแข่งขันรถจักรยานยนต์เพื่อประลองความเร็วก็จะถูกดำเนินอีกด้วย