xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ทรัพย์ฯ เปิดงาน “ประชารัฐร่วมใจ คืนน้ำใสให้คลองแม่ข่า” เน้นย้ำทุกฝ่ายร่วมมือจริงจัง เชื่อเห็นผลใน 3 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดงาน “ประชารัฐร่วมใจ คืนน้ำใสให้คลองแม่ข่า” เน้นย้ำทุกภาคส่วนร่วมมือแก้ไขปัญหาน้ำเสียที่เรื้อรังมาหลายสิบปี หนุนแนวทางการมีส่วนร่วมของชุมชนและแต่ละครัวเรือนจัดการบำบัดน้ำเสียก่อนทิ้ง หลังพบเริ่มเห็นผลคุณภาพน้ำดีขึ้น เชื่อหากภาคประชาชน รัฐ เอกชน และท้องถิ่นจับมือเข้มแข็ง ภายใน 3 ปีได้เห็นน้ำแม่ข่าใสสะอาดแน่

วันนี้ (31 พ.ค. 60) ที่จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน “ประชารัฐร่วมใจ คืนน้ำใสให้คลองแม่ข่า” พร้อมมอบนโยบายการจัดการน้ำเสียเพื่อคืนน้ำใสให้คลองแม่ข่า และเยี่ยมชมนิทรรศการภายในงาน โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวรายงาน นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับ โดยมี พลโท ธนา จารุวัต แม่ทัพน้อยที่ 3 หน่วยงานภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมจำนวนมาก

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า คลองแม่ข่านับเป็นคลองที่มีความสำคัญสายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ปัจจุบันพบว่าเน่าเสียเรื้อรังมายาวนานหลายสิบปี โดยปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองแม่ข่าไม่ได้มาจากชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่มาจากหลายปัจจัย ฉะนั้นวิธีแก้ปัญหาจึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยหากจะให้สภาพน้ำในคลองแม่ข่ากลับมาใสสะอาด มีภูมิทัศน์ที่สวยงามเอื้อประโยชน์ต่อชุมชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ใช่ปลายน้ำดูแล แต่ต้นน้ำไม่ดูแลก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

ดังนั้น คนในจังหวัดเชียงใหม่ต้องช่วยกันดูแลรักษา เพราะสาเหตุนั้นมาจากการระบายน้ำเสียในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7 แห่งที่คลองแม่ข่าไหลผ่าน โดยการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากต้องส่งเสริมให้มีการจัดการน้ำเสียของตนเอง ทั้งการติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียและบ่อดักไขมัน โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ริมคลอง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในพื้นที่มีแหล่งกำเนิดมลพิษที่เป็นแหล่งกำเนิดขนาดใหญ่ จำนวน 272 แห่ง โดยทางกรมควบคุมมลพิษได้ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมภาคที่ 1 จะดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายให้ครบภายในปีนี้

พลเอก สุรศักดิ์ย้ำด้วยว่า แม้จะมีการตั้งงบประมาณในการสร้างบ่อบำบัด หรือการบริหารจัดการจากส่วนกลางแล้ว แต่หากคนเชียงใหม่ไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจังแล้วอีก 10 ปีก็ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยสภาพทุกวันนี้คลองแม่ข่าของจังหวัดเชียงใหม่เริ่มดีขึ้นแล้ว ดังนั้น ถ้าหากทุกคนร่วมมือกันตั้งแต่ตอนนี้ ภายใน 1 ปีเชื่อว่าน่าจะเห็นผลที่ชัดเจน และภายใน 3 ปีน่าจะได้คลองแม่ข่าที่ใสสะอาด ซึ่งถึงเวลาแล้วที่คนเชียงใหม่ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันไม่ปล่อยให้เป็นปัญหาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และหากพบว่าผู้ใดที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน

สำหรับเรื่องแนวทางการจัดเก็บค่าบำบัดน้ำเสียด้วยการปล่อยน้ำดีไหลลงไปไล่น้ำเสียในคลองแม่ข่า โดยจะให้แต่ละครัวเรือนที่อาศัยอยู่ติดคลองแม่ข่าเป็นผู้รับผิดชอบนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบอกว่า เรื่องนี้ยังคงเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น เพราะการจัดเก็บขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มารับผิดชอบโดยตรง แต่หากเป็นไปได้ก็คงจะคิดในอัตราส่วนที่ว่า ครัวเรือนหลังใดใช้น้ำมาก ครัวเรือนก็ต้องปล่อยน้ำเสียมาก หรือสถานประกอบการไหนใช้น้ำมาก ก็ต้องเสียค่าบำรุงหรือค่าดูแลมากเพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเท่าเทียมกันต่อไป






กำลังโหลดความคิดเห็น