xs
xsm
sm
md
lg

จมอ่วม ชาวนาบุรีรัมย์ร้องชลประทานเร่งระบายน้ำท่วมข้าวนาปรังใกล้เก็บเกี่ยวกว่า 500 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชาวนา 2 หมู่บ้านอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้ชลประทานเร่งระบายน้ำลำตะโคง หลังระดับน้ำหนุนสูงเอ่อเข้าท่วมข้าวนาปรังกำลังตั้งท้องและใกล้เก็บเกี่ยวกว่า 500 ไร่ จมกว่า 0.70-1 เมตร วันนี้ ( 31 พ.ค.)
บุรีรัมย์ - ชาวนา 2 หมู่บ้าน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้ชลประทานเร่งระบายน้ำลำตะโคง หลังระดับน้ำหนุนสูงเอ่อเข้าท่วมข้าวนาปรังกำลังตั้งท้องและใกล้เก็บเกี่ยวกว่า 500 ไร่ หากไม่เร่งระบายน้ำจะทำให้ข้าวจมเน่าเสียหายทั้งหมด หลายรายลุยน้ำท่วมสูง 0.70-1 เมตรเกี่ยวข้าวใส่เรือ กะละมัง ขึ้นไปตากแม้ยังไม่สุกแก่เต็มที่

วันนี้ (31 พ.ค.) ชาวนาบ้านจะหลวย หมู่ 3 และบ้านลิ้นเกี่ย หมู่ 13 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 ครอบครัว ได้ร่วมกันออกมาเรียกร้องให้ทางชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำตะโคง หลังระดับน้ำหนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำห้วยจระเข้มากไหลลงมาสมทบ ทำให้น้ำในลำตะโคงเอ่อเข้าท่วมข้าวนาปรังที่กำลังตั้งท้องและใกล้เก็บเกี่ยว ที่เกษตรกรทั้ง 2 หมู่บ้านเพาะปลูกไว้เพื่อบริโภครวมเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 70 เซนติเมตร (ซม.) ถึงกว่า 1 เมตร หากน้ำท่วมขังนานกว่า 1 สัปดาห์ข้าวก็เน่าเสียหายไม่ได้ผลผลิต

จึงอยากเรียกร้องให้ทางชลประทานเร่งระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำตะโคงให้รวดเร็วและปริมาณมากกว่านี้ เพราะขณะนี้ทางชลประทานระบายน้ำออกล่าช้าและปริมาณน้อยไม่สมดุลกับปริมาณน้ำที่หนุนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ชาวนาบางส่วนลงทุนลุยน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรเกี่ยวข้าวนาปรังใส่เรือ และกะละมัง นำขึ้นไปตากลดความชื้นเพื่อเก็บไว้บริโภคแม้จะยังไม่สุกแก่เต็มที่ก็ตาม เพราะหากปล่อยไว้อาจจะเน่าเสียหายทั้งหมด

นายกฤษณะ สุวงศ์ ชาวนาบ้านจะหลวย บอกว่า ปีนี้ทำนาปรังทั้งหมด 20 ไร่เพื่อเก็บผลผลิตไว้บริโภคในครัวเรือน เพราะไม่สามารถทำนาปีได้เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวจะถูกน้ำจากลำตะโคงเอ่อท่วมทุกปีจึงอาศัยทำนาปรังแทน แต่ปีนี้ปริมาณน้ำในลำตะโคงหนุนสูงขึ้นเร็วกว่าทุกปีทำให้เอ่อท่วมข้าวนาปรังที่เพาะปลูกไว้บริโภคแทนข้าวนาปีที่ไม่สามารถปลูกได้ แต่กลับมาถูกน้ำเอ่อท่วมซ้ำอีกจากผลกระทบดังกล่าว

จึงอยากเรียกร้องให้ทางชลประทานเร่งระบายน้ำออกจากลำตะโคงให้รวดเร็วและมากกว่านี้ เพื่อให้ชาวนาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรังก่อน ซึ่งคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนมิถุนายนจะสุกแก่เต็มที่และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมด

ขณะที่ นางทศพร ปิ่นคำ และนายภควุฒิ เที่ยงธรรม ชาวนาบ้านลิ้นเกี่ย บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ที่มีโฉนดและเอกสารสิทธิถูกต้อง ไม่ได้อยู่ในเขตชลประทาน แต่กลับไม่สามารถทำนาปีได้เนื่องจากเมื่อถึงฤดูทำนาปีน้ำจากลำตะโคงจะเอ่อท่วมทุกปี ชาวนาจึงต้องปรับเปลี่ยนหันมาทำนาปรังแทนเพื่อให้มีผลผลิตไว้บริโภคในครัวเรือน แต่พอข้าวกำลังตั้งท้องอีกเพียงประมาณ 2 สัปดาห์จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้กลับถูกน้ำเอ่อท่วม

จึงอยากร้องขอให้ทางชลประทานเร่งเข้ามาตรวจสอบและหาทางระบายน้ำออกเพื่อให้ชาวนาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เพราะหากระบายน้ำออกล่าช้าหรือท่วมขังนานถึงสัปดาห์ก็จะจมเสียหายไม่ได้ผลผลิตอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น