xs
xsm
sm
md
lg

จับแล้ว 3 โจรบุกจับยามร้านเฟอร์นิเจอร์ก่อนงัดตู้เอทีเอ็มกลางเมืองอุบลฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต.ลือชัย สุดยอด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องแถลงจับกุมโจรบุกร้านเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองอุบลฯ หวังงัดตู้เอทีเอ็ม 2 ธนาคารแต่ไม่สำเร็จ
อุบลราชธานี - จับได้แล้ว 3 โจรบุกใช้อาวุธปืนจับยามห้างขายเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังกลางเมืองอุบลฯ เมื่อ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนทุบกระจกหวังเข้าไปงัดเอาเงินสดในตู้เอทีเอ็ม 2 แบงก์ใหญ่แต่ไม่สำเร็จ ตำรวจใช้ความพยายามสืบจากคดีเก่า พบประวัติก่อเหตุชิงทองมาก่อน กระทั่งสามารถจับตัวได้สำเร็จ

จากเหตุการณ์เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา มี 3 โจรสวมไอ้โม่งบุกชาร์จใช้ปืนตบหน้าก่อนจับ รปภ.ห้างจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังกลางเมืองอุบลราชธานีใส่กุญแจมือขังไว้ในห้องด้านหลังของโชว์รูม ก่อนทุบกระจกเข้าไปในตัวอาคารเพื่องัดเอาเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม 2 ธนาคารใหญ่แต่ล้มเหลวเพราะมือไม่ถึงเจาะเข้าไปในตัวเซฟใช้เก็บเงินสดไม่ได้ หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนนำตัวยามและพนักงานที่พักอยู่ชั้นบนของโชว์รูมมาหาเบาะแสตามจับกลุ่มคนร้ายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (30 พ.ค. 60) เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ต.ลือชัย สุดยอด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ศิริพัฒน์ธนภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และ พ.ต.อ.ศิราเมษฐ์ ธานินพิทักษ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม 3 ผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธปืนพกสั้นบุกปล้นทรัพย์ภายในห้างจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์อินเด็กซ์ ตั้งอยู่ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี โดยใช้รถยนต์เก๋งโตโยต้า สีเทา ทะเบียน กต 1512 อุบลราชธานี เป็นพาหนะ และอาวุธปืนพกสั้นแบบลูกโม่ขนาด .32 ไม่มีหมายเลขทะเบียน

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเย็นวันที่ 29 พ.ค. พ.ต.ต.วิจิตร พุฒพิมพ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.เมืองอุบลราชธานี นำหลักฐานไปขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับตัวนายชวิน คงธนโกมลกุล หรือชื่อเดิมนามสกุลเดิมว่า นายศราวุธ กาศกุล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 347 ถ.พิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี หนึ่งใน 3 ผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มคนร้ายเข้าไปจี้จับตัวยาม เพื่อไปงัดเอาเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารที่ตั้งอยู่หน้าร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าว

หลังชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รอง ผกก.สส.สอบเค้นความจริงกับนายชวินนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ยอมรับสารภาพว่าร่วมกับเพื่อนที่เคยติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางอุบลราชธานี คือนายญาณเดช ฐิติพันธ์นิจวรีย์ อายุ 39 ปี ชาวอำเภอวาริชภูมิ จ.สกลนคร และนายดำ บุญภา อายุ 54 ปี ชาวอำเภอกุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี วางแผนบุกจับตัวนายโยควง อรุณโรจน์ อายุ 46 ปี ยามของห้างขายเฟอร์นิเจอร์กลางดึกวันที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปในตัวอาคารทางด้านหลัง เพื่อเจาะเอาเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ จำกัด และธนาคารกสิกรไทย จำกัด ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของโชว์รูมดังกล่าว

โดยวางแผนสั่งซื้อปืนพกสั้นมาจากอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้เป็นอาวุธข่มขู่ยามไม่ให้ขัดขืน ก่อนสวมกุญแจมือนำตัวเข้าไปขังไว้ในห้องพักยาม และถอดเอาเซิร์ฟเวอร์ใช้บันทึกภาพทีวีวงจรปิดไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นหลักฐานติดตามจับกุมตัว หลังลงมือก่อเหตุใช้ชะแลงงัดเซฟใช้เก็บเงิน แต่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงงัดไม่สำเร็จเนื่องจากเซฟของตู้เอทีเอ็มมีระบบการป้องกันการโจรกรรมถึง 2 ชั้น ต้องหลบหนีไปมือเปล่าเพราะเริ่มเช้าเกรงจะมีคนพบเห็น กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับตัวไว้ได้

นายชวินสารภาพต่อถึงสาเหตุที่ต้องมาก่อเหตุเจาะตู้เซฟเอทีเอ็ม เพราะต้องการเงินไปต่อสู้คดีหลังตกเป็นผู้ต้องหาใช้ปืนบุกเดี่ยวจี้จับตัวเจ้าของร้านทองเยาวราช ตรงข้ามห้างบิ๊กซีเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 56 และต้องติดคุกอยู่ในเรือนจำกลางอุบลราชธานีนานหลายปี กระทั่งเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อต้นปี 2560 แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตามอายัดตัวคดีที่เข้าไปลักทรัพย์ตามสถานที่ราชการในตัวจังหวัดอีกหลายแห่ง จึงขอประกันตัวออกมาและต้องใช้เงินระหว่างสู้คดี จึงชักชวนเพื่อนที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุกมาก่อเหตุขึ้นอีก

หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด เจ้าหน้าที่นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและนำตัวไปเอาปืนพกสั้นลูกโม่ขนาด .32 ซึ่งหลังก่อเหตุนายชวินนำไปขายให้เพื่อนคือ นายวีรยุทธ วิพล อายุ 25 ปี เพื่อนในราคา 1,500 บาท ที่บ้านเลขที่ 63/2 ถ.สุปัฏน์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี นำไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานดำเนินคดีคนทั้ง 3 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวกักขังและบังคับจิตใจโดยใช้อาวุธปืนประทุษร้ายผู้อื่น

ส่วนนายวีรยุทธถูกดำเนินคดีข้อหารับซื้อของโจร มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตคุมตัวดำเนินคดีพร้อมกัน

สำหรับการสืบสวนจับกุมครั้งนี้ ชุดสืบสวนได้นำพฤติกรรมของคนร้ายในอดีตที่ผ่านมาเปรียบเทียบการลงมือก่อเหตุ ซึ่งมีอยู่หลายกลุ่ม แต่มีกลุ่มนายชวิน หรือชื่อเดิมว่านายศราวุธ อดีตผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนจี้จับตัวเจ้าของร้านทองเยาวราช ตรงข้ามห้างบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี บังคับให้เปิดตู้เซฟเก็บเงินสดและเครื่องทองรูปพรรณมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทในร้าน

ก่อนนำตัวเจ้าของร้านทองและลูกน้องใส่กุญแจมือขังไว้ในห้องนอน เหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 28 ส.ค. 56 แต่หนีไปไม่รอดถูกตามจับหลังก่อเหตุเพียง 1 ชั่วโมงเศษเท่านั้น โดยครั้งนั้นนายชวิน หรือนายศราวุธลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว

และจากการสอบสวนปากคำพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุบุกจับยามเพื่อเข้าไปเจาะเซฟตู้เอทีเอ็ม มีพยานยืนยันพบเห็นบุคคลมีลักษณะสัณฐานใกล้เคียงนายชวินไปดูลาดเลาที่โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ก่อนเกิดเหตุ เมื่อนำมารวมกับพฤติกรรมแผนประทุษร้ายในอดีตของนายชวินที่เคยก่อเหตุมีลักษณะใกล้เคียง จึงส่งชุดเฝ้าติดตามดูพฤติกรรม พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจ จึงนำพยานหลักฐานไปขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานีออกหมายจับตัวมาสอบสวนและผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น