บุรีรัมย์- ฝนตกหนักต่อเนื่อง และน้ำเหนือจากโคราชไหลมาสมทบ ส่งผลให้น้ำท่วมขังนาข้าวและไร่อ้อย 10 ตำบลใน อ.หนองกี่ เน่าเสียหายกว่า 1,000 ไร่ เกษตรกรถึงกับร่ำไห้หมดตัว ทั้งกู้เงินมาลงทุนซื้อพันธุ์ ปุ๋ย ค่าจ้างไถ รายละ 2-3 แสน แต่ถูกน้ำท่วมเสียหายในพริบตา วอนภาครัฐช่วยเหลือ
วันนี้ (29 พ.ค.) หลังเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องครอบคลุมหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกับน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมาไหลมาสมทบ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรที่ลงมือไถหว่านไว้เมื่อช่วงเดือนเมษายน และต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ 10 ตำบลของอำเภอหนองกี่ได้รับความเสียหายสิ้นเชิงแล้วกว่า 600 ไร่
นอกจากนั้น น้ำยังเอ่อท่วมขังไร่อ้อยของเกษตรกร ทั้งที่ปลูกใหม่ และอ้อยตอ 2 ที่มีอายุประมาณ 3-4 เดือนจนเน่าเสียหายอีกกว่า 400 ไร่ ถึงแม้เกษตรกรหลายรายจะพยายามขุดร่องระบายน้ำ และใช้เครื่องสูบน้ำออก แต่จากปริมาณฝนที่ตกลงมาสมทบอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ไม่สามารถที่จะระบายออกได้ จนเกิดน้ำท่วมขังทั้งนาข้าวและไร่อ้อยเป็นเวลานานร่วมเดือนแล้ว
โดยระดับน้ำที่ท่วมนาข้าวและไร่อ้อยเฉลี่ย 50 เซนติเมตรถึง 1 เมตร สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวนา และเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเป็นอย่างมาก เพราะต้องลงทุนในการทำนาเฉลี่ยไร่ละ 5,000 บาท ปลูกอ้อยไร่ละ 8,000 บาท ซึ่งหลายรายต้องไปกู้ยืมเงินมาลงทุนซื้อพันธุ์ข้าว อ้อย ปุ๋ย ค่าจ้างไถรายละ 2-3 แสนบาท แต่กลับต้องมาถูกน้ำท่วมเน่าเสียหายในพริบตา
จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐได้เร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือด้วย เพราะบางรายถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด
นางอาริสา ฤษกกระโทก อายุ 42 ปี เกษตรกร ต.ทุ่งกระตาด อ.หนองกี่ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ปีนี้ได้กู้ยืมเงินโรงงานน้ำตาล และ ธ.ก.ส.มาลงทุนปลูกอ้อย และทำนากว่า 400,000 บาท แต่ขณะนี้ได้ถูกน้ำท่วมนาข้าวเสียหายไปแล้ว 16 ไร่ จากทั้งหมด 40 ไร่ ส่วนอ้อยเสียหายแล้วกว่า 40 ไร่ จากทั้งหมด 200 ไร่ หากยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอาจถูกน้ำท่วมเสียหายมากกว่านี้
จากผลกระทบที่เกิดขึ้นอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาสำรวจและหาแนวทางช่วยเหลือด้วย เพราะหากผลผลิตเสียหายหมดแล้วไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้
ด้าน นายชานนท์ เข็มรัมย์ ประธานอาสาสมัครเกษตร จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดน้ำท่วมนาข้าว และไร่อ้อยของเกษตรกรในพื้นที่ อ.หนองกี่ เป็นวงกว้าง ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีนาข้าวและไร่อ้อยถูกน้ำท่วมกระจายใน 10 ตำบล ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 1,000 ไร่ โดยสาเหตุนอกจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องแล้ว สาเหตุสำคัญคือมีการก่อสร้างถนนกีดขวางทางน้ำ ไม่มีการวางท่อระบายน้ำ หรือท่อลอดที่ได้มาตรฐาน เมื่อมีฝนตกหนักติดต่อกันก็ทำให้เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรของเกษตรกรได้รับความเสียหายดังกล่าว
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาสำรวจและหาแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพราะเมื่อปี 2554 และปี 2555 เกิดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน