อุตรดิตถ์ - กลุ่มกระชังปลาอุตรดิตถ์เดือดร้อนหนัก หลังรับหนังสือจากเจ้าท่าฯ ให้ไปเสียค่าปรับปลูกสร้างล่วงล้ำน้ำน่าน ตร.ม.ละ 1,000 บาท วอนหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างช่วยเจรจาหากไม่ได้ผลอาจเลิกเลี้ยงปลาไปเลย ด้านหอการค้าฯ ติงค่าปรับแพงเกินเหตุ เตรียมหาทางช่วยเต็มที่
วันนี้ (29 พ.ค. 60) ที่สำนักงานหอการค้า จ.อุตรดิตถ์ จ.ส.อ.วิสูตร ส้มจันทร์ อายุ 67 ปี ผู้เลี้ยงปลา อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ และเป็นผู้เลี้ยงปลาในกระชังแม่น้ำน่าน เข้าหารือกับ นายทวีศักดิ์ ปึงวงศานุรักษ์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากกรณี นายอติรุจ จำรูณ ผู้อำนวยการสำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาคสาขาแพร่ ซึ่งดูแล จ.อุตรดิตถ์ด้วย มีหนังสือถึงผู้เลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำน่านว่า ให้ผู้เลี้ยงปลาในกระชังทุกรายไปชำระค่าปรับ หลังฝ่าฝืนการปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำน่านตารางเมตรละ 1,000 บาท โดยอ้างว่าผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินเรือในน่านน้ำไทย มาตรา 18 ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 มีนาคม 2560 ซึ่งผู้เลี้ยงปลาในกระชังมองว่าไม่เป็นธรรมและอาจจะเลิกเลี้ยงปลาทันที
นายทวีศักดิ์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดฯ กล่าวว่า หลังจากรับทราบปัญหาของกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังแล้วรู้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนัก เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 18 ที่เจ้าท่าภูมิภาค สาขาแพร่ นำมาใช้นั้นเป็นการออกกฎหมายหลังกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่เลี้ยงมาก่อน ฉะนั้นควรยึดหลักรัฐศาสตร์มากกว่าหลักกฎหมาย เพราะจะทำให้เกิดปัญหากับผู้ถูกบังคับใช้และจะเกิดปัญหาการต่อต้านทันทีหากได้รับผลกระทบ
ดังนั้น ทางออกเรื่องนี้คือ เจ้าท่าภูมิภาคสาขาแพร่จะต้องยกเลิกการปรับในอัตราดังกล่าว จากนั้นก็มาจัดระเบียบว่ากันใหม่ให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ส่วนการจัดเก็บเงินก็ควรเก็บในอัตราที่ต่ำอย่างน้อยควรอยู่ที่ตารางเมตรละ 5 บาท เพราะอาชีพเลี้ยงปลามีรายได้กำไรตัวละ 3 บาทเท่านั้นเมื่อหักต้นทุนการเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว
“น่าเสียดายหากกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชังจะเลิกเลี้ยงปลาเพราะการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัดของเจ้าท่าภูมิภาคสาขาแพร่มากจนเกินไป เพราะเม็ดเงินที่หมุนเวียนปีละ 500 ล้านบาทผู้ที่อยู่กับอาชีพนี้ก็จะหายไปด้วย คนที่ออกกฎหมายก็ออกมาโดยไม่ดูข้อเท็จจริงว่ามีปัญหาอะไรขึ้นบ้างในพื้นที่”
นายทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจังหวัดอุตรดิตถ์ไม่มีการเดินเรือแล้ว มีแต่อาชีพเลี้ยงปลาที่สร้างรายได้ให้กับคนอุตรดิตถ์ ถ้าจะเก็บกับผู้เลี้ยงปลาควรเก็บกับคนที่สร้างแพในแม่น้ำ ซึ่งอาจจะสร้างความสกปรกให้กับแม่น้ำน่านมากกว่า และคงไม่มีใครยอมรับมาตรการของเจ้าท่าภูมิภาคสาขาแพร่ ซึ่งคงจะต้องทำหนังสือร้องขอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ต่อไป เพราะร้องจังหวัดแล้วไม่มีการดำเนินการอะไรออกมาเลย แต่สิ่งที่เจ้าท่าจะต้องกลับมาดูแลคือ การเก็บผลประโยชน์ในแม่น้ำน่านควรนำมาช่วยเหลือชาว จ.น่าน และอุตรดิตถ์ ในฐานะที่เป็นเหมือนเจ้าของน้ำน่านด้วยซ้ำไป