น่าน - เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมงาน “มหกรรมวันรวมพลังประชาชนตำบลเจดีย์ชัยต้านภัยยาเสพติด” พร้อมชื่นชมผลสำเร็จหลังแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ผลเป็นรูปธรรม และมอบทุนสร้างอาชีพ กว่า 6 แสนบาท
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่จังหวัดน่านเพื่อร่วมกิจกรรม “มหกรรมวันรวมพลังประชาชนตำบลเจดีย์ชัยต้านภัยยาเสพติด” โดยมีนายชนาธิป เสมแย้ม นายอำเภอปัว พร้อมด้วย นายสมาน วังแสง นายก อบต.เจดีย์ชัย และผู้นำชุมชน สภาเด็กและเยาวชนตำบลเจดีย์ชัย ส่วนราชการที่สนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปการดำเนินงาน ณ อาคารศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บ้านวังม่วง หมู่ 7 ต.เจดีย์ชัย อ.ปัว จ.น่าน ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดในระดับหมู่บ้าน และขยายผลจนยกระดับตำบลโดยใช้รูปแบบประชารัฐได้อย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในอำเภอปัว โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและคนในชุมชนที่ตระหนักถึงโทษภัยยาเสพติดและร่วมกันคิดหาวิธีแก้ไข โดยลดผู้เสพและเข้าสู่กระบวนการบำบัด ตลอดจนติดตามให้กำลังใจ ช่วยเหลือดูแลจนสามารถให้ผู้หลงผิดกลับคืนสู่ชุมชนได้อีกครั้ง
รวมทั้งยังมีมาตรการทางสังคมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่ด้วย ส่งผลให้ได้รับพระราชทานเป็นหมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2550 และเป็นศูนย์การเรียนรู้หมู่บ้านกองทุนแม่ของแผ่นดิน ปี 2560 ทั้งยังได้ปรับสถานะเป็นหมู่บ้านที่มีปัญหาน้อย โดยได้รับรางวัลหมู่บ้านที่มีการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดดีเด่นจากกระทรวงมหาดไทย
นอกจากนี้ยังติดตามผลการดำเนินงานตามแผนประชารัฐร่วมใจ สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่จังหวัดน่าน ร่วมกับ นายไพศาล วิมลรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง ค่ายสุริยพงษ์ และ ศูนย์ขวัญแผ่นดินจังหวัดน่าน อ.เมืองน่าน
ซึ่งในการนี้ ได้มอบทุนประกอบอาชีพให้กับผู้ที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด จำนวน 26 คน เป็นเงินรวม 638,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งการให้โอกาสแก่ผู้ผ่านการบำบัดนำไปเป็นทุนตั้งต้นในการประกอบอาชีพที่สุจริต สามารถเลี้ยงตนเองได้ และกลับคืนสู่ครอบครัว ชุมชน และสังคม ได้อย่างปกติสุขต่อไป
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยถึงสถานการณ์ยาเสพติด ซึ่งประเทศไทย เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดผ่านไปยังประเทศที่สาม โดยภาพรวมประเทศไทยมีกว่า 90,000 หมู่บ้าน และ มีกว่า 30,000 หมู่บ้านที่ยังมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งในจำนวนนี้ มีหมู่บ้านที่ถือเป็นขั้นวิกฤตจำนวน 243 แห่งของทั้งประเทศ ขณะที่จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ติดชายแดนและเป็นพื้นที่พักยาเสพติด แต่ยังถือว่าไม่รุนแรงเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น
แต่ก็ยังมีหมู่บ้านที่มีการระบาดของยาเสพติดและมีหมู่บ้านวิกฤต จำนวน 11 หมู่บ้าน ซึ่ง ป.ป.ส. ได้ทำงานร่วมมือกับทุกภาคส่วนแบบบูรณาการ ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง โดยเน้น 3 มาตรการ คือ การปราบปราม การป้องกัน และ การบำบัด รวมทั้งเน้นด้านการข่าว และมาตรการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อกดดันกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ โดยทาง ป.ป.ส.จะสนับสนุนด้านงบประมาณและความร่วมมือเพื่อร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด
