นครพนม - หนุ่มใหญ่ชาวศรีสงคราม แม้ชีวิตจะอยู่ในความมืดแต่เขาไม่ย่อท้อ เรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องเป็นภาระของญาติพี่น้อง เปิดบ้านรับบริการนวดแผนไทยมีรายได้วันละกว่า 400 บาท เป็นอีกกรณีตัวอย่างของคนสู้ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
หลายคนอาจจะท้อแท้สิ้นหวัง เมื่อต้องเจอกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต จนบางครั้งตัดสินใจผิดพลาด นำมาซึ่งการสูญเสียและหมดอนาคต แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ยอมแพ้ มองวิกฤตเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ คิดเชิงบวก และนำพาชีวิตตนเองไปสู่ความสำเร็จ เหมือนกรณีของ “นายนนทา อุทำกา” หนุ่มพิการบ้านภูกะแต หมู่ที่ 12 ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
นายนนทา อุทำกา หนุ่มพิการหัวใจไม่ยอมแพ้ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนก็มีสายตาปกติและใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไป จนกระทั่งเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วก็ต้องพบกับอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต คือมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง ส่งผลให้สายตาเริ่มมองไม่เห็นและบอดสนิทในเวลาต่อมา ซึ่งช่วงแรกๆ ก็รู้สึกท้อแท้ในชีวิต เคว้งคว้างไปหมดทุกอย่าง ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปดี
แต่ก็ถือว่าตนเองโชคดีเพราะญาติพี่น้องทุกคนไม่เคยทอดทิ้ง ต่างคอยให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือเสมอมา จนกระทั่งได้ไปขึ้นทะเบียนคนพิการกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม และนั่น...เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง ทำให้ตนมีกำลังใจที่จะกลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง
เพราะหลังจากลงทะเบียนไม่นานก็ได้รับการประสานจากสมาคมคนพิการจังหวัดนครพนมให้เข้ารับการฝึกอบรม ทำให้ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่มีปัญหาทางสายตาเหมือนกันจำนวนมาก ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เป็นกำลังใจให้กันพร้อมๆ กับการเรียนใช้ไม้เท้าในการนำทาง การฝึกอักษรเบรลล์ และการฝึกอาชีพ
ซึ่งเมื่อจบการฝึกอบรม 3 เดือนก็สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งมีอาชีพติดตัว นั่นคือ “การนวดแผนไทย” โดยช่วงแรกได้เปิดร้านนวดอยู่ที่ตัวจังหวัด แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องเช่าร้านจึงได้เปลี่ยนใจมาเปิดร้านที่บ้านร่วมกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันแทน ในแต่ละวันตนและนางพูลทรัพย์ พันธุ์กลาง เพื่อนผู้พิการทางสายตาจะมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่คนละประมาณ 400 บาทต่อวัน
เป็นรายได้ที่น่าพอใจ เพราะคิดค่าบริการเพียงชั่วโมงละ 100 บาทเท่านั้น ทำให้ทุกวันนี้ตนแทบไม่ต้องพึ่งพาญาติพี่น้อง จะมีรบกวนบ้างแค่การฝากซื้อหาอาหารมาสำรองไว้ในตู้เย็นสำหรับรับประทานเท่านั้น
นายนนทาบอกอีกว่า การนวดแผนไทยที่ตนเรียนมานั้นจะมีทั้งหมด 5 บท ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ทุกครั้งที่ลูกค้ามาใช้บริการตนจะนวดเพิ่มให้อีกประมาณ 30 นาทีเสมอ ทำให้ทุกคนติดอกติดใจ และเดินทางมาใช้บริการประจำ แถมชักชวนเพื่อนๆ มาด้วยเสมอ ทำให้ตนได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ส่วนลูกค้าที่ตนรู้สึกภูมิใจมากที่สุด คือลูกค้ามาจากจังหวัดสกลนคร ที่มาครั้งแรกต้องหามลงจากรถด้วยมีอาการกระดูกกดทับเส้นประสาทและแพทย์แนะนำให้ใช้วิธีการนวดแผนไทย ซึ่งเวลานวดจะร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็สามารถขับรถมาให้นวดเองได้ แถมเป็นลูกค้าประจำที่มักจะนำเพื่อนๆ มาใช้บริการเพิ่มด้วยเสมอ
“คนเราท้อได้แต่อย่ายอมพ่ายแพ้ ต้องมีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่ออย่างมีคุณค่า ทุกวันนี้รู้สึกพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ มีอาชีพที่สุจริตทำ มีรายได้เป็นของตัวเองโดยไม่ต้องรบกวนญาติพี่น้อง ไม่เป็นภาระของสังคมรอบข้าง” นายนนทากล่าวย้ำ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากมาทดลองนวดก็สามารถโทร.สอบถามได้ที่ 08-9375-0235 ซึ่งมีบริการทั้งการนวดแผนไทย นวดแก้อาการ นวดจับเส้น และนวดเพื่อสุขภาพ รับรองว่ามาแล้วต้องติดใจกลับไปอย่างแน่นอน