ยโสธร - เกษตรกรเลี้ยงปลาในกระชังเมืองยโสธรสุดช้ำ ปลาน็อกน้ำตายกว่า 26 กระชังหรือกว่า 20 ตัน ต้องยอมเลหลังขายราคาถูกและนำไปทำปลาร้า หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทั้งเขื่อนยโสธรเร่งระบายน้ำ ทำให้ปลาปรับตัวไม่ทันน็อกน้ำตาย
วันนี้ (29 พ.ค. 60) เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง ลำน้ำชีหลง เขตตำบลค้อเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ได้รับความเดือดร้อนปลาที่เลี้ยงไว้ลอยตายเต็มพื้นที่กระชังกว่า 26 กระชัง หรือคิดเป็นน้ำหนักกว่า 20 ตัน ซึ่งปลาที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดกำลังโตเต็มที่รอจับส่งขายให้ลูกค้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ต้องมาประสบปัญหาน็อกน้ำลอยตายทั้งหมด เนื่องจากระยะนี้พื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงมีน้ำไหลลงสู่แม่น้ำชีเป็นจำนวนมาก
จนทางเขื่อนยโสธรที่กั้นแม่น้ำชี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ต้องเปิดประตูเขื่อนเร่งระบายน้ำออกจำนวนมาก ส่งผลให้ปลาที่เลี้ยงในกระชังปรับตัวไม่ทันเกิดอาการน็อกน้ำลอยตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งปลาที่น็อกน้ำบางส่วนที่ยังไม่เน่า เกษตรกรจะช่วยกันชำแหละปลาอย่างเร่งด่วนเพื่อนำไปทำเป็นปลาร้า บางส่วนจะส่งขายในราคาถูก 3 กิโลกรัม 100 บาท จากปกติที่เคยส่งขายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท
นางทองลา แทนกุดเรือ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 5 ตำบลค้อเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เกษตรกรที่เลี้ยงปลาในกระชังลำน้ำชีหลง กล่าวว่า ตนกับสามีเลี้ยงปลาในกระชังทั้งหมด 26 กระชัง ลงทุนไปกว่า 7 แสนบาท ขณะนี้ปลาโตเต็มที่พร้อมจับส่งให้ลูกค้าแล้ว แต่รอวันจับเท่านั้น ต้องมาประสบกับปัญหาปลาน็อกน้ำตายทั้งหมด เนื่องจากระยะนี้เขื่อนยโสธรได้เร่งระบายน้ำออกเพื่อรองรับน้ำใหม่ที่มีฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้
ทำให้ปลาที่เลี้ยงในกระชังปรับตัวไม่ทันเกิดอาการน็อกน้ำลอยตายทั้งหมด คาดว่าปลาที่ตายมีน้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 20 ตัน เงินที่ลงทุนไปกว่า 7 แสนบาทต้องสูญเปล่าทันที ส่วนกระชังปลาของเกษตรกรรายอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกันและในแม่น้ำชีเกษตรกรต้องเร่งนำเครื่องเพิ่มออกซิเจนในน้ำไปติดตั้งพร้อมกับเดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันปลาน็อกน้ำตายเพิ่มอีก สามารถแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
