หนองคาย - ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองลาว เปิดใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ป้องกันปัญหาการลักลอบใช้หนังสือเดินทางปลอมและสกัดกั้นบุคคลมีหมายจับฉวยโอกาสออกนอกประเทศ
วันนี้ (28 พ.ค. 60) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งขาออกประเทศ อ.เมืองหนองคาย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธานเปิดใช้ช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือออโต้แชนเนล โดยมี พันโท สายสะหมิง สีวิไล อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาว, พล.ต.ต.ปฏิพัทธ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมงานชมการปฏิบัติงานของเครื่องออโต้แชนเนลในการบริการประชาชนที่ใช้หนังสือเดินทางออกนอกประเทศ
พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. กล่าวว่า ด่านหนองคายเป็นด่านบกด่านแรกที่ สตม.เลือกให้นำระบบช่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติมาใช้ เนื่องจากเป็นด่านสากลชายแดนใหญ่ ที่มีประชาชนเดินทางเข้าออกประเทศโดยเฉลี่ยวันละ 15,000 คน ระบบนี้จะเชื่อมต่อข้อมูลกับฐานข้อมูลอาชญากร สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าใครมีหมายจับ มีการกระทำผิดกฎหมาย หรือนำหนังสือเดินทางของบุคคลอื่นมาใช้ รวมถึงหนังสือเดินทางปลอม
ที่ผ่านมามีผู้ลักลอบนำหนังสือเดินทางของบุคคลอื่นมาใช้ยื่นกับเจ้าหน้าที่ด่านหนองคายบ่อยครั้ง ซึ่งการใช้เครื่องออโต้แชนเนลจะช่วยเหลือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ มีความแม่นยำ รวดเร็ว นำไปใช้แล้วกว่า 20 ล้านคนที่ด่านสุวรรณภูมิ สามารถแก้ปัญหาหนังสือเดินทางปลอมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผู้รับบริการจะได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ตรวจคนเข้าเมืองสามารถสกัดกั้นบุคคลไม่พึงประสงค์และมีหมายจับ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองนโยบายรัฐบาลไทยแลนด์ 4.0 นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ หลังจากนี้จะขยายติดตั้งระบบนี้ไปยังด่านใหญ่ๆ ที่มีคนเข้าออกมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เช่น ด่านสงขลา, สระแก้ว, อรัญประเทศ
ระยะแรกจะใช้กับคนไทยก่อนเพราะมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงในฐานข้อมูลอยู่แล้ว ขั้นตอนการทำงานของเครื่องมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกจะเป็นการตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางปลอมหรือไม่ ขั้นตอนที่สองเป็นการตรวจสอบยืนยันตัวบุคคล ว่าเป็นเจ้าของหนังสือเดินทางหรือไม่ด้วยลายพิมพ์นิ้วมือ ถ้ามีหมายจับระบบจะล็อกอัตโนมัติ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบได้ง่าย
ด้านพันโท สายสะหมิง สีวิไล อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาว กล่าวว่า ทางการลาวกับทางการไทยมีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง มีด่านชายแดนที่ติดต่อกันหลายด่าน ที่ผ่านมามีความร่วมมือที่ดีบนพื้นฐานความร่วมมือทั้งสองฝ่าย ซึ่งหลังจากเปิดประชาคมอาเซียนแล้ว พบว่ามีคนเดินทางเข้าออกประเทศลาวมากขึ้น ทำให้การประสานข้อมูลระหว่างลาวไทยต้องแนบแน่นยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาบุคคลไม่พึงประสงค์เข้าออกประเทศ โดยยังไม่ถึงขั้นพบตัวบุคคลอันตรายหรือต้องผลักดันกลับประเทศต้นทางแต่อย่างใด