นอภ.ศรีราชา กำชับพื้นที่สุ่มเสียง ยกระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในสภาวะปกติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายอำเภอศรีราชา ลงพื้นที่จุดเสี่ยง พร้อมกำชับทุกหน่วยงานที่เข้าข่ายสุ่มเสียง เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดในสภาวะปกติ พร้อมรายงานสายตรงถึงนายอำเภอ ทันทีหากพบสิ่งผิดปกติ วอนประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา

นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา เปิดเผยถึงมาตรการรักษาคาวามปลอดภัยในพื้นที่อำเภอศรีราชา หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 คน ซึ่งอำเภอศรีราชานั้นถือว่าเป็นพื้นที่ เป็นจุดยุทธศาสตร์ระดับประเทศ เนื่องจากมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก โรงกลั่น และคลังเก็บน้ำมัน

เมื่อทราบข่าวการระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่สุ่มเสี่ยง รวมทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือจุดที่มีประชาชนไปอยู่รวมกันจำนวนมาก โดยได้กำชับทุกหน่วยงานให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเหตุเกี่ยวกับความมั่นคงเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ รวมทั้งการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นอกจากนี้ ยังได้มาตรการเข้มในการตั้งด่านตรวจสอบตามจุดเสี่ยงต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้ ได้มีการจัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ผู้ประกอบการต่างๆ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล สังเกตบุคคล สิ่งของที่มีความผิดปกติ โดยขอให้ผู้ประกอบการ และประชาชนให้ความร่วมมือและช่วยเหลือ หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งมายังเจ้าหน้า ที่หรือสายตรงถึงนายอำเภอทันที

สำหรับทางด้านโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์อีกแห่งทีมีความสำคัญ โดย ดร.ทวีศักดิ์ บันลือสินธุ์ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมและควบคุมธุรกิจบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ ทางโรงกลั่นฯ ได้มีการตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยรอบโรงกลั่นฯ พร้อมสั่งให้ รปภ.ประจำทุกจุดทางเข้าออก ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งทางบก และทางน้ำ โดยมีการรายงานสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรถสายตรวจคอยดูแลความเรียบร้อยตลอดวัน

โดยมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดในการเข้าออกของบุคคลภายนอก ยานพาหนะต่างๆ ที่เข้าในบริเวณโรงกลั่นฯ ต้องเป็นยานพาหนะที่ขึ้นทะเบียนต่อทางบริษัทไว้แล้ว และต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดตลอดการเข้าออก มีกล้อง CCTV และพนักงานดูแลระบบตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ยังมีแผนฉุกเฉินกรณีเกิดการบุกรุกเข้าในบริเวณโรงกลั่นฯ ทั้งนี้ มีมาตรการยกระดับความปลอดภัยเพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นตามลำดับ

ด้านท่าเรือแหลมฉบัง ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งทาง ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีการเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นตามลำดับ

ด้านโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ซึ่งเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ทางอำเภอศรีราชา เป็นห่วง โดย นายเลอเลิศ อมรสังข์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์ โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และบริหารงานชุมชนในเครือไทยออยล์ เผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เรารู้ว่าพื้นที่เรามีความสำคัญของประเทศชาติ เพราะฉะนั้น ทางโรงกลั่นฯ จึงได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษอยู่แล้ว รวมทั้งมีการวางมาตรการที่เข็มงวดขึ้น และมีภาคีเครือข่ายให้ความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัย

สำหรับในช่วงที่มีเหตุการณ์ หรือสิ่งบ่งชี้ หรือปัจจัยภายนอกที่ทำให้ทางโรงกลั่นฯ ต้องเพิ่มมาตรการต่างๆ ทางเราก็มีขั้นตอนที่ปรับความเข้มข้นของการรักษาความปลอดภัยตามสถานการณ์ได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีเครือข่ายที่จะร่วมกันทำงานให้เหมาะสมต่อสถานการณ์นั้นๆ