เพชรบุรี - ตำรวจภาค 7 สรุปคดียาเสพติดเครือข่าย นายสัมฤทธิ์ ยะไวย์ และขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ ล่าสุด ตรวจทรัพย์สินได้เพิ่มอีก 7.8 ล้านบาท พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ เพื่อนำไปตรวจสอบเพิ่ม
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สรุปความคืบหน้าคดียาเสพติดเครือข่าย นายสัมฤทธิ์ ยะไวย์ ซึ่งเป็นการยึดเงิน และทรัพย์สินเพิ่มเติมจากวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ได้มีการแถลงผลจับกุมขบวนการฟอกเงินเครือข่ายข้ามชาติ โดยยึดของกลางได้รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาทนั้น
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการแถลงดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ. ยาเสพติด ได้เพิ่มอีก 1 ราย คือ น.ส.จินตนา หรือปิงปอง จินตธรรม ตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ในข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย
นอกจากนั้น ยังขออนุมัติเลขาธิการ ป.ป.ส. ดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องข้อหาสมคบ และส่งสำนวนการสืบสวน เพื่อให้เลขาธิการ ปปง.ตรวจสอบ และยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งมีความเชื่อมโยงของขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญนอกประเทศ
พร้อมเครือข่าย นางปทุมทิพย์ ชาวลาว ซึ่งถูกจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เครือข่าย นางหมอน หรือสมร เพชรอรุณ ชาวลาว และเครือข่ายของนางน้อย ทองฮัก ชาวลาว ซึ่งเป็นน้องสาวของนางหมอน โดยจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงราย พร้อมบุตรสาว และแฟนหนุ่ม ยึดเงินได้ 47 ล้านบาท
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินผู้ต้องหาด้านการเงิน ธุรกรรมการซื้อขายทองคำแท่ง อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินมีค่าอื่น โดยเข้าตรวจค้นบริษัทพาวเว่อร์เอกเช้นจ์ ราชดำริห์ จนนำไปสู่การยึดเงิน และทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ได้เพิ่มอีกจำนวน 7.8 ล้านบาท พร้อมยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 16 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ไว้ตรวจสอบ เพื่อดำเนินการสืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป