บุรีรัมย์ - ผู้ว่าจ้างหอบหลักฐานขึ้นโรงพักเมืองบุรีรัมย์ แจ้งความเอาผิดผู้จัดการส่วนตัวศิลปินนักร้องดัง “ลำไย ไหทองคำ” เจ้าของเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” เบี้ยวการแสดง 2 งาน ทั้งที่ทำสัญญาว่าจ้างศิลปินกันแล้ว อ้างมีคิวงานอื่น และขอค่าตัวเพิ่มขึ้น แต่พนักงานสอบสวนตรวจดูเอกสารแล้วเป็นคดีแพ่ง จึงลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมแนะผู้เสียหายไปฟ้องศาล
วันนี้ (25 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น. นายสวรรค์ฟ้า พัวอุดมเจริญ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.4 ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หรือทีมงานสวรรค์ฟ้า โปรโมชั่น ที่เป็นผู้ว่าจ้าง ติดต่อศิลปินค่ายเพลงต่างๆ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน
พร้อมนำเอกสารหลักฐานเป็นสัญญาว่าจ้างศิลปิน คิวงาน บันทึกประจำวัน สภ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร, บันทึกประจำวัน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม, บันทึกประจำวัน สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม, ใบอนุญาตให้ทำการโฆษณาโดยใช้การขยายเสียง และภาพถ่ายป้ายโฆษณาการแสดงของ ลำไย ไหทองคำ ที่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร, ภาพถ่ายป้ายโฆษณาการแสดงของ ลำไย ไหทองคำ ที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และภาพถ่ายป้ายโฆษณาการแสดงของ ลำไย ไหทองคำ ที่ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม
เพื่อแจ้งความเอาผิด นายประจักษ์ เนาวรัตน์ เป็นผู้จัดการส่วนตัวศิลปิน “ลำไย ไหทองคำ” หรือ น.ส.สุพรรณษา เวชกามา เจ้าของเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ที่กำลังโด่งดัง และศิลปิน อาม ชุติมา ผลงานเพลง อดีตที่เคยพัง และดนตรี Band (มอซอ) พร้อมแดนเซอร์ 4 คน ไม่มาดำเนินการแสดงตามสัญญาที่ได้ทำไว้ตามคิวงานที่รับทั้งหมด ทำให้นายสวรรค์ฟ้าเกิดความเสียหายทั้งชื่อเสียงและค่าใช้จ่าย
โดยนายสวรรค์ฟ้าเป็นผู้ว่าจ้าง ได้ทำสัญญาว่าจ้างศิลปินกับ บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2559 พร้อมจ่ายเงินมัดจำ 50,000 บาท ซึ่งมีพยานด้วย ระบุศิลปิน ลำไย ไหทองคำ, อาม ชุติมา, ดนตรี Band (มอซอ) พร้อมแดนเซอร์ 4 คน สถานที่ทำการแสดง จำนวน 21 คิว ตั้งแต่เวลา 21.00-24.00 น. ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. 2560 ได้มีการลดคิวการแสดงลงเหลือ 11 คิว รวม 11 รอบ ซึ่งจะเป็นที่รู้กันระหว่างผู้ว่าจ้างกับผู้จัดการส่วนตัวของศิลปิน คือ วันที่ 18 ม.ค. 60, วันที่ 20 ม.ค. 60, วันที่ 23 ม.ค. 60, วันที่ 16 ก.พ. 60, วันที่ 20 ก.พ. 60, วันที่ 21 ก.พ. 60, วันที่ 16 มี.ค. 60, วันที่ 7 เม.ย. 60, วันที่ 8 เม.ย. 60
แต่พอมาถึงคิวการแสดงวันที่ 12 พ.ค. 60 และวันที่ 13 พ.ค. 60 นายประจักษ์ และศิลปินคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการแสดงได้ตามสัญญา โดยอ้างว่ารับงานแสดงอื่นแล้ว และค่าตัวศิลปินต้องเพิ่มขึ้นด้วย เป็นเหตุให้นายสวรรค์ฟ้าได้รับความเสียหายขึ้น
หลังจากทาง พ.ต.ท.สิริพงษ์ ฤทธิ์ไธสง รอง ผกก.หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ตรวจสอบดูเอกสารหลักฐานทั้งหมด และสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว พบว่าเข้าข่ายความผิดสัญญาจ้างทำของ ซึ่งเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา เพราะพนักงานสอบสวนจะสอบสวนเฉพาะความผิดทางคดีอาญาเท่านั้น จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายไปดำเนินการฟ้องร้องต่อศาล ตามที่มูลคดีเกิดเหตุ ฟ้องตามภูมิลำเนาของผู้เสียหาย และฟ้องตามภูมิลำเนาของผู้ถูกร้องตามแต่ผู้เสียหายสะดวกต่อไป
ด้านนายสวรรค์ฟ้ากล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากผู้จัดการส่วนตัวศิลปินไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้ตนเกิดความเสียหายทั้งชื่อเสียงที่ทำงานด้านนี้มากว่า 16 ปี อีกทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เสียไป มีค่ามัดจำ ค่าป้ายโฆษณา การเดินทาง ติดต่อประสานงาน จึงอยากให้สังคมทราบว่าการจ้างศิลปินมีการเปิดกว้างมากขึ้น และผู้จัดการส่วนตัวของศิลปินต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นมาเยอะ แต่ไม่มีใครกล้ามาเปิดเผยให้สังคมรับรู้
“จากการฟังคำแนะนำของพนักงานสอบสวน ทำให้เข้าใจกระบวนการดำเนินการแล้ว ซึ่งจากนี้ไปจะจ้างทนายความฟ้องร้องต่อศาลดำเนินคดีต่อนายประจักษ์ที่ทำให้ตนเสียชื่อเสียงในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นต้นเดือน มิ.ย.นี้ ส่วนจะฟ้องร้องที่ศาลไหนขอปรึกษาทนายก่อน” นายสวรรค์ฟ้ากล่าวในตอนท้าย
