xs
xsm
sm
md
lg

ฉลามวาฬโผล่ทะเลเกาะทะลุ เชื่อท้องทะเลมีความอุดมสมบูรณ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“รองอธิบดีกรม ทช.” ลงพื้นที่เกาะทะลุ ดูฉลามวาฬโผล่
ประจวบคีรีขันธ์ - “รองอธิบดีกรม ทช.” ลงพื้นที่เกาะทะลุ ดูฉลามวาฬโผล่ใกล้แหล่งดำน้ำดูปะการัง เชื่อท้องทะเลยังมีความอุดมสมบูรณ์ วอนนักท่องเที่ยวไม่ควรให้อาหาร หรือทำให้ฉลามวาฬตกใจอาจได้รับอันตราย

วันนี้ (25 พ.ค.) ได้ปรากฏตัวของ “ฉลามวาฬ” ตัวใหญ่ที่แหวกว่ายน้ำทะเลให้นักท่องเที่ยวได้ยลโฉมกันแบบใกล้ชิด และสร้างความตื่นตาตื่นใจ ที่บริเวณเกาะทะลุ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3-4 ครั้งที่ผ่านมาในรอบ 2 เดือน ซึ่งเป็นจุดดำน้ำดูปะการังชื่อดังของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมด้วย นายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 (เพชรบุรี) นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ประจวบคีรีขันธ์ น.ส.ทิพามาศ อุปน้อย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร และเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังบริเวณเกาะทะลุ

โดยพบว่าในช่วงวันหยุดมีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวต่างพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำบริเวณเกาะทะลุ จำนวนมาก และได้พบปะพูดคุยทำความเข้าใจชี้แจงให้ไกด์ประจำเรือ เจ้าของเรือ ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำให้รับทราบถึงการปฏิบัติตัวหากพบเจอฉลามวาฬขณะดำน้ำ

สำหรับการปฏิบัติตัวนั้น ไม่ควรอยู่ด้านหน้า และด้านหางของฉลามวาฬ โดยให้อยู่ด้านข้างแทน รวมทั้งไม่ควรให้อาหารปลา เพราะหากทำไม่ถูกวิธีอาจจะกลายเป็นการรบกวนความเป็นอยู่ของฉลามวาฬ หรืออาจทำให้ฉลามวาฬตกใจจนทำอันตรายได้

นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้นขอให้นักท่องเที่ยวไม่ยืนบนปะการัง และไม่เก็บปะการังไม่ว่าจะเป็นชนิดใดขึ้นมาโดยเด็ดขาด เนื่องจากพื้นที่บริเวณเกาะทะลุ ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้มีการประกาศมาตรการ 13 มาตรการระงับความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อทรัพยากรปะการัง หลังเกิดปะการังฟอกขาวบริเวณเกาะทะลุเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา

โดยมาตรการดังกล่าว เช่น ห้ามจอดเรือโดยการทิ้งสมอเรือบริเวณแนวปะการัง ห้ามทิ้งขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล น้ำเสีย มลพิษลงในทะเล ห้ามการขุดลอกร่องน้ำในแนวปะการัง ห้ามการเก็บหรือทำลายปะการัง เว้นแต่เพื่อการกระทำเพื่อการศึกษาวิจัยทางวิชาการ โดยใครฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558

รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า การพบเห็นฉลามวาฬบ่อยขึ้น ซึ่งฝูงนี้มีอยู่ประมาณ 5-6 ตัวด้วยกันเคลื่อนย้ายหากินตั้งแต่เกาะเต่า จ.สุราษฏร์ธานี เกาะง่าม จังหวัดชุมพร และเกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลบริเวณดังกล่าว

นอกจากนั้น ได้สั่งการให้ นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ประจวบคีรีขันธ์ จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมเรือใหญ่ของ ทช.มาตั้งสถานีลอยน้ำบริเวณเกาะทะลุ ในช่วงวันหยุดเทศกาล และวันหยุดสุดสัปดาห์ต่างๆ เนื่องจากพบว่ามีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ลุงดาทัวร์ หนึ่งในผู้ประกอบการที่ให้บริการพานักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่เกาะทะลุ กล่าวว่า ด้วยสภาพปะการัง และน้ำทะเลที่สวยงามขึ้น ประกอบกับการปรากฏตัวของสัตว์ทะเลหายากอย่าง “เจ้าฉลามวาฬ” ล้วนแต่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปดำน้ำที่เกาะทะลุ ด้วยหวังว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับ “ยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล” ทำให้ชาวประมงต่างหันมาทำธุรกิจพานักดำน้ำสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวอีกทางหนึ่ง

ด้าน นายเผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ เลขามูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม กล่าวว่า การพบ “ฉลามวาฬ” ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลหายากในพื้นที่เกาะทะลุ บ่อยมากขึ้น เป็นสิ่งการันตีว่าสภาพแวดล้อมรอบๆ เกาะทะลุ ได้รับการดูแลฟื้นฟูจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน จนมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ส่งผลให้มีการพบสัตว์ทะเลหายากบ่อยครั้งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเต่าทะเล และฉลามวาฬ

สำหรับในปีนี้ ยอมรับว่าธุรกิจพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำชมปะการังที่เกาะทะลุ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งตัวเลขภาพรวมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนคน และเชื่อว่าในปีนี้น่าจะเพิ่มมากขึ้น 10-15 เปอร์เซ็นต์
นักท่องเที่ยวไทย-เทศมาเกาะทะลุเพิ่มมากขึ้น
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาดำน้ำดูปะการัง
กำลังโหลดความคิดเห็น