ศูนย์ข่าวขอนแก่น - กอ.รมน.ขอนแก่นรวบ 13 แรงงานกัมพูชาหลบหนีเข้ามาทำงานก่อสร้างถึงตัวเมืองขอนแก่น เผยแรงงานต่างด้าวยอมเสียค่านายหน้าถึง 3,000 บาท เพื่อเข้ามาทำงานหวังค่าจ้างวันละ 300 บาทในเมืองไทย
วันนี้ (24 พ.ค. 60) พ.อ.กาจบดินทร์ ยิ่งดอน รอง ผอ.รมน.จังหวัด ข.ก.(ท.) พร้อมชุดปฏิบัติการตรวจสอบและจับกุมแรงงานต่างด้าว ตามโครงการตรวจสอบและควบคุมแรงงานต่างด้าว เพื่อความสงบของสังคมไทย ประกอบด้วยกำลังพลจากหน่วยงาน กอ.รมน.ขอนแก่น, กก.สส.ภ.จังหวัด, สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น นำผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานก่อสร้างใน จ.ขอนแก่น ไม่มีหนังสือเดินทางจำนวน 1 3 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและทำงานไม่ได้รับอนุญาต
แยกเป็นแรงงานกัมพูชาชาย 6 คน หญิง 7 คน อายุระหว่าง 20-30 ปี เชื้อชาติ-สัญชาติกัมพูชา เข้ามาทำงานอยู่ในบริเวณสถานที่ก่อสร้างเคหะชุมชนเมืองเก่า กรีนวิลล์ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน วันละ 300-350 บาท
พ.อ.กาจบดินทร์เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าในสถานที่ดังกล่าวมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากหลบหนีเข้ามาทำงานก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเข้าไปปิดล้อมภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง เมื่อตรวจสอบไม่พบหลักฐานใบผ่านแดน และใบอนุญาตให้ทำงานในสถานที่ดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่ามีแรงงานกัมพูชาเป็นหญิงอายุ 26 ปี บอกว่ามาจากชายแดนปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อข้ามมาฝั่งไทย มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 40 ปี ขับรถยนต์ปิกอัพมารับ คิดค่านายหน้าคนละ 3,000 บาท นำมาส่งให้ถึงที่ทำงานก่อสร้างใน จ.ขอนแก่น และทำงานมาได้ประมาณ 3 เดือนได้ค่าจ้างวันละ 300-350 บาท ก็ถูกเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าจับกุมดังกล่าว
ทั้งนี้ การประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท ทำให้แรงงานต่างด้าวจำนวนมากต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทยในอัตราที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยและรับจ้างกระจายในหลายจังหวัดของภาคอีสาน โดยเฉพาะที่ขอนแก่น เพราะค่าจ้างที่สูง ตามลักษณะงานและมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี ขณะที่การกวดขันจับกุมของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนงานยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกจับกุมผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 13 คนที่ถูกจับกุมครั้งนี้ มีความผิดเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป