ราชบุรี - จ.ราชบุรี กำหนดมาตรการเข้มรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังเหตุร้ายที่จะเกิดต่อโรงผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ในจังหวัดทั้ง 4 โรง ตลอด 24 ชม.
วันนี้ (23 พ.ค.) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าว ถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญของ จ.ราชบุรี หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ว่า เบื้องต้น ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานประสาน และบูรณาการความร่วมมือในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และยังขอให้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเฝ้าระมัดระวังสิ่งผิดสังเกต และยังได้มีการเน้นย้ำไปยังส่วนที่เกี่ยวข้องให้ตรวจเข้มสถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบริเวณการค้าขาย
พร้อมขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่เมื่อพบสิ่งที่ผิดสังเกตุ เช่น ท่อ กระเป๋า หรือวัสดุที่ทิ้งไว้นานแล้วไม่มีเจ้าของให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที และยังให้อำเภอทุกแห่งรวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจตราพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ
“ในส่วนของโรงผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ใน จ.ราชบุรี ที่มีถึง 4 โรง ก็ได้เน้นย้ำไปยังผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เอาใจใส่เป็นกรณีพิเศษ แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าแต่ละที่ เป็นระบบที่มีมาตรฐานอยู่แล้ว ทั้งการตรวจสอบบุคคล อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์ที่เข้าออก ขณะที่ในส่วนของแหล่งท่องเที่ยว ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลอย่างเต็มที่ แต่ก็อยากขอร้องให้ประชาชนอย่าแตกตื่น ซึ่ง จ.ราชบุรี ไม่มีสัญญาณบอกเหตุที่ทำให้ไม่สบายใจ เพียงแต่เป็นการเพิ่มความถี่การตรวจตราเพื่อป้องกันเหตุร้ายเท่านั้น” นายชัยวัฒน์ กล่าว
เช่นเดียวกับ นายอุเทน จินะสะทุ่ง ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่าย ทำหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย อนามัย และสิ่งแวดล้อม โรงไฟฟ้าราชบุรีพาวเวอร์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บ้านไร่ชาวเหนือ อ.ดำเนินสะดวก กล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยทั้งภายนอก และภายในโรงไฟฟ้า มีมาตราการที่เข้มงวด ทั้งการตรวจค้นก่อนเข้าและออก รวมทั้งยังมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพทั้งรถ และคนได้ เช่นเดียวกับการตรวจจับสัญญาณรอบโรงไฟฟ้า เพื่อรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง