นครพนม - ศูนย์ดำรงธรรมนครพนมปิดห้องนัดเจ้าหนี้เลือดเย็น “เจ๊สุ” กับบรรดาลูกหนี้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมไกล่เกลี่ยปัญหาเงินกู้ เบื้องต้นเจรจาหาทางออกช่วยลูกหนี้ได้ 2 ราย ด้านตำรวจเผยมีลูกหนี้เข้าแจ้งความเอาผิดเจ๊สุรวมแล้ว 33 ราย เร่งสอบสวนขยายผลดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงินต่อนายทุนรายนี้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (23พ.ค.) นายไพฑูรย์ รักประเทศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมกรณีปัญหาหนี้นอกระบบที่มีลูกหนี้จำนวนมากได้รับผลกระทบจากความไม่ชอบธรรมจากเจ้าหนี้ “เจ๊สุ” สุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยในวันนี้นอกจากลูกหนี้ที่เดินทางมาขอเจรจาไกล่เกลี่ยด้วยตนเองแล้ว นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน คู่กรณี ก็ได้เดินทางมาด้วยตนเองพร้อมทนายความ
วาระแรกในที่ประชุมคือการเจรจาไกล่เกลี่ยมูลหนี้รายของนางลัดดาวัลย์ คำบุญ และนางสุวรรณหงส์ น้อยนันตะ ที่เป็นหนี้และถูกกดดันจากเจ้าหนี้จนเป็นเหตุให้นางสุวรรณหงษ์ต้องผูกคอตาย สำหรับรายนี้มีนางลัดดาวัลย์เป็นผู้มาเจรจา โดยนางลัดดาวัลย์เป็นฝ่ายเสนอขอชำระหนี้ที่ตกค้างเป็นเงิน 280,000 บาท ซึ่งนางสาวสุพิชญ์ฌา คู่กรณี ยอมตกลงยินยอมรับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวโดยไม่คิดดอกเบี้ย
พร้อมยินยอมยื่นคำร้องและแถลงของดการบังคับคดีต่อสำนักงานบังคับคดีเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากลูกหนี้รายนี้อยู่ระหว่างถูกเจ้าหนี้บังคับจำนองโดยนำที่ดินหลักประกันออกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งหลังจากนี้นางลัดดาวัลย์จะทำเรื่องขอกู้เงิน อชก.เพื่อนำเงินมาชำระให้แก่นางสุพิชญ์ฌาต่อไป
ส่วนลูกหนี้อีกรายที่ได้รับการไกล่เกลี่ยในวันนี้คือนางพิสมัย ชินวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.9 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม โดยเป็นหนี้บริษัทภูวษา จำกัด ซึ่งมีนางสาวสุภิชญ์ฌา เป็นเจ้าของ
ทั้งนี้ นางพิสมัยเสนอขอชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน 70,000 บาท ซึ่งทางบริษัทภูวษาก็ยินดีรับชำระในวงเงินดังกล่าว โดยขอคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปีนับจากวันที่กู้ ซึ่งในการเจรจาไกล่เกลี่ยดังกล่าว นางพิสมัยยินยอมให้บริษัทภูวษา จำกัด ฟ้องให้ชำระหนี้ในวงเงินดังกล่าวต่อศาลจังหวัดนครพนม เพื่อที่จะนำคำพิพากษาในเรื่องดังกล่าวไปประกอบการขอกู้ยืมเงินจากกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกร และผู้ยากจน (อชก.)
โดยมีข้อตกลงว่าบริษัทภูวษาจะเป็นผู้ออกค่าทนายความและค่าธรรมเนียมศาลให้แก่นางพิสมัย โดยหลังจากที่ได้รับเงินอนุมัติจาก อชก.แล้วนำไปชำระหนี้ทางบริษัทภูวษาจึงจะปลดจำนองให้
สำหรับบรรยากาศในการเจรจาไกล่เกลี่ย ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนหรือผู้ไม่มีส่วนได้เสียเข้าร่วมรับฟังแต่อย่างใด
ส่วนในด้านคดีที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญาต่อนางสาวสุพิชญ์ฌา ไว้กับ สภ.เมืองนครพนมนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.อุกฤษ ทรงชัยสงวน ผกก.สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีลูกหนี้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์แล้วรวมทั้งสิ้น 33 ราย โดยในเบื้องต้นได้เข้าแจ้งความรวม 17 ราย และหลังจากออกหมายจับนางสาวสุพิชญ์ฌาแล้วได้มีชาวบ้านเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมอีก 16 ราย รวมแล้วขณะนี้มีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วรวม 33 ราย
ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องรายอื่น เพื่อจะได้ดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินเพิ่มเติมต่อนายทุนรายนี้ต่อไป
