นครสวรรค์ - ชาวนา ต.บึงน้ำใส นครสวรรค์ ต่างหวั่นใจน้ำเหนือก้อนใหญ่กำลังทะลักไหลลงมา ต่างพากันยกคันนาให้สูงขึ้นแต่กลัวเอาไม่อยู่ วอนขอเขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำให้มากขึ้นก่อนนาข้าวพังยับ
วันนี้ (23 พ.ค. 60) ที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บึงน้ำใส อ.เมืองนครสวรรค์ ต่างกำลังเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม โดยเป็นผลพวงมาจากการเกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคเหนือ ไหลลงสู่แม่น้ำน่านก่อนจะกระจายไปตามลำคลองสาขาต่างๆ จนขณะนี้น้ำได้สร้างความเสียหายแก่พื้นที่ทำการเกษตรของ ต.บึงน้ำใส แล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีกลุ่มชาวบ้านหลายคนต่างร่วมแรงร่วมใจมาทำกระสอบทรายนำไปทำเป็นคันกั้นไม่ให้น้ำจากคลองบางเคียนที่ไหลผ่านในพื้นที่เอ่อล้นตลิ่งทะลักเข้ามาสู่ที่นาของตนเอง และมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งต้องลงทุนจ้างรถแบ็กโฮมาขุดดินเพื่อทำคันกั้นที่นาให้สูงขึ้น เพื่อเตรียมรับมือปริมาณน้ำรอระบายจากทางภาคเหนือที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งปริมาณน้ำที่ไหลผ่านตำบลบึงน้ำใสยังมีปริมาณสะสมและเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ จนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่นาบางส่วนที่ทำคันกั้นไม่ทันจนได้รับความเสียหายไปประมาณ 2,500 กว่าไร่แล้ว โดยในจำนวนนี้เป็นนาที่เริ่มมีต้นข้าวกำลังงอกเงย อายุ 15 วัน ถึง 2 เดือน
จากการสอบถามนายมาโนช อุทัยรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.บึงน้ำใส เปิดเผยว่า น้ำที่ไหลผ่านคลองบางเคียนในเขตตำบลที่ตนอยู่เป็นน้ำที่มาจาก จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร เป็นเวลา 3 วันแล้ว และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงวันละ 5-10 เซนติเมตร แต่ในขณะเดียวกัน น้ำที่ไหลต่อผ่าน อ.เมืองนครสวรรค์ เข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชลประทานว่ามีการระบายน้ำผ่านเขื่อนดังกล่าวเพียง 599 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
ทำให้ที่ ต.บึงน้ำใส รวมถึง ต.บางพระหลวง ที่อยู่ใกล้เคียงกันมีปริมาณน้ำรอการระบายสะสมเพิ่มขึ้นจนเอ่อล้นเข้าพื้นที่การเกษตรบางส่วนได้รับความเสียหาย และหากทางเขื่อนเจ้าพระยาไม่มีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นกว่านี้พื้นที่การเกษตรของที่นี่ รวมถึงบ้านเรือนที่อยู่ติดคลองคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักกว่านี้แน่ จึงอยากวิงวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่เขื่อนเจ้าพระยาช่วยเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ต.บึงน้ำใส และ ต.ใกล้เคียงในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ด้วย
