จ.ประจวบฯ คุ้มเข้มบ้านพักเด็ก หวั่นซ้ำรอยถูกผู้ดูแลกระทำอนาจาร

ประจวบคีรีขันธ์ - ปลัดจังหวัด นำหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบบ้านพักเด็กพาวเวอร์ ออฟ เลิฟ หัวหิน ป้องกันเหตุซ้ำรอยผู้ดูแลบ้านพักกระทำอนาจารเด็กที่ถูกสั่งปิดไปก่อนหน้า เบื้องต้น สั่งให้ยุติการอุปการะเด็กเป็นการชั่วคราว และยังได้นำเด็กชายทั้งหมดที่อยู่ในการดูแลไปคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างถูกต้อง

วันนี้ (22 พ.ค.) นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นางฉวีวรรณ สัญญา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้ง นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจภูธรหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบบ้านพักเด็ก พาวเวอร์ ออฟ เลิฟ หัวหิน ซึ่งเปิดรับอุปการะเด็กชายอายุตั้งแต่ 6-14 ปี รวม 7 คน มากว่า 1 ปี

การเข้าตรวจสอบดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการคุมเข้มให้บ้านพักเด็กปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และยังเป็นการป้องกันไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยคนดูแลกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ภายในบ้านพักหมู่บ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน ที่ถูกคำสั่งปิดดำเนินการไปก่อนหน้า

จากการตรวจสอบพบว่า บ้านพักเด็กพาวเวอร์ ออฟ เลิฟ หัวหิน มีเนื้อที่ 200 ตารางวา เป็นอาคารปูน 2 ชั้นสภาพใหม่ และชั้นล่างแบ่งเป็นห้องรับแขก ห้องประชุม ห้องครัว ห้องน้ำ และยังแบ่งสัดส่วนด้านหน้าเป็นสำนักงานที่มีกล้องวงจรปิด

นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบฯ เผยว่า จากการเข้าสอบถามข้อมูลจาก น.ส.อรสา ก่ำรัมย์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการบ้านพักเด็ก พาวเวอร์ ออฟ เลิฟ และทนายความที่ได้รับมอบอำนาจให้เข้าชี้แจ้ง และนำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ พบว่า สถานที่แห่งนี้มีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ และได้เปิดอุปการะเด็กชายมาได้ประมาณปีเศษ โดยมีเด็กชายอยู่ในความดูแล 7 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้า เด็กยากจน และเด็กด้อยโอกาส

ที่สำคัญยังไม่พบเอกสารการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่สถานที่แห่งนี้ไม่มีการแสดงตัว หรือชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นมูลนิธิแต่อย่างใด จึงไม่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.กำหนดความรับผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม มูลนิธิ พ.ศ.2499

“แต่ลักษณะการดำเนินงานของสถานที่แห่งนี้เป็นการเปิดอุปการะเด็กตั้งแต่ 6 คน ขึ้นไป จึงเข้าข่ายสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน ซึ่งยังไม่มีการจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมาย จึงมีความผิดจำคุกไม่เกิน 1 เดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และในวันนี้ได้สั่งให้ยุติการอุปการะเด็กทั้งหมดแล้ว และยังได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมความมั่นคงของมนุษย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชั่วคราว และให้นำเด็กชายทั้งหมดไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว” นายสมพร กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเข้าตรวจสอบเด็กๆ ทั้งหมดที่อยู่ในการดูแลของบ้านพักได้ออกไปเรียนหนังสือ เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน รวมทั้งข้อมูล ประวัติของเด็ก และเอกสารการจดทะเบียนของสถานที่ โดยผู้จัดการบ้านพักเด็กอ้างว่า อยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิต่อทาง อ.หัวหิน และได้ยื่นเอกสารไปแล้วแต่ไม่ครบ และอยู่ระหว่างมอบหมายให้ทนายความรวบรวมเอกสาร

ในระหว่างการดำเนินงานหน่วยงานราชการ ได้กำหนดให้บ้านพัก พาวเวอร์ ออฟ เลิฟ แจ้งผู้ปกครองเด็กให้รับทราบว่า เด็กอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และหากบ้านพักเด็กพาวเวอร์ ออฟ เลิฟ ดำเนินการตามกฎหมายเรียบร้อย คณะกรรมการก็จะเข้าตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เพื่อให้สามารถนำเด็กกลับไปอุปการะได้เช่นเดิม