ทวงคืนทับหลังปราสาทเขาโล้นโผล่ในงานแสดงที่อเมริกา

สระแก้ว - ชาวบ้านเร่งทวงคืนทับหลังปราสาทเขาโล้น อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หลังพบถูกจัดแสดงที่สหรัฐอเมริกา คนแก่ฝันอยากเห็นสมบัติชาติอีกครั้งก่อนตาย หลังทราบข่าว ท้องถิ่น อำเภอเสนอให้กรมศิลปากรเร่งบูรณะ และทวงคืนสมบัติชาติที่หายไปกลับคืนมาทั้งหมด หวังเป็นแหล่งท่องเที่ยวจัดงานประเพณีทุกปี พบเคยเกิดอาถรรพ์หลายครั้งเล่าสืบต่อกันมากว่า 50 ปี

ภายหลังปรากฏข่าวกรณีมีการพบทับหลังปราสาทเขาโล้น อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ถูกนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียชอง-มูน ลี ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โดยมีภาพถ่ายเมื่อ 50 ปีก่อน ยืนยันว่าเคยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งนักวิชาการไทยได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมศิลปากร ดำเนินการทวงคืนสมบัติของชาติกลับมาสู่ประเทศไทย เช่นเดียวกับทับหลังนารายณ์บรรทมศิลป์ ปราสาทพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์

โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ร่วมกับ นายอารยัน ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา นายโกเมศ เพชรโกมล กำนันตำบลทัพราช นายพรพงศ์ เสาวคนธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทัพราช และชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุกว่า 20 คน เดินทางขึ้นไปตรวจสอบบริเวณปราสาทเขาโล้น หลังมีข่าวพบทับหลังที่ในอดีตเคยเห็นอยู่ที่ปราสาทเขาโล้น แต่มีการลักลอบขโมยไปในช่วงเกิดสงครามในประเทศกัมพูชา จนไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันด้วย

คุณตาประสาน ฉ่ำดำ อายุ 69 ปี ชาวบ้านเจริญสุข ม.6 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว กล่าวว่า เมื่อประมาณ 60 ปีก่อน ตอนที่ยังเป็นเด็ก เคยขึ้นมาเลี้ยงวัวกับพ่อบนบริเวณปราสาทเขาโล้น และเคยเห็นทับหลัง ซึ่งเป็นลักษณะหินแกะสลักลวดลายติดอยู่ พร้อมทั้งมีขอบประตู และตอนนั้นก็มีคนมาขุดหาพระพุทธรูปด้วย ส่วนบริเวณรอบนอกปราสาทยังมีสิงโตแกะสลักหลายตัวอยู่ทั้ง 4 มุม ซึ่งตนเองยังเคยขึ้นไปขี่สิงโตด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่รู้หายไปไหน หากมีการพบว่าถูกขโมยไป และสามารถทวงคืนกลับมาได้ เพื่อนำกลับมาไว้ที่เดิมให้ลูกๆ หลาน ๆ ได้เห็นได้บูชากันจะเป็นเรื่องดี

คุณตาประสาน บอกว่า ชาวตาพระยาทั้งอำเภอจะมาตักบาตรเทโวกันทุกปี หลังจากงานในหมู่บ้านเสร็จ เมื่อมีข่าวดีเช่นนี้ชาวบ้านก็อยากเห็นอีกสักครั้งก่อนตาย ทุกวันนี้ชาวบ้านมีความเชื่อว่า บนปราสาทเป็นสถานที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เคยเล่าขานกันว่า แค่ขนาดเด็กขึ้นไปนั่งบนรูปหินแล้วร้องเป็นเสียงช้าง เช้ามาอีกวันก็ป่วยเป็นไข้ และเสียชีวิต ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าขึ้นมาบนปราสาท

ด้าน นายวน อินทร์พลา อายุ 68 ปี กล่าวอีกว่า บ้านอยู่ไม่ไกลกับปราสาทเขาโล้น เคยเลี้ยงวัวควายอยู่รอบปราสาท เมื่อ 40-50 ปีก่อน และก็เคยเจอกลุ่มคนมาขุดหาสมบัติบริเวณโดยรอบปราสาทด้วย เคยเข้าไปดูหลุมที่ขุดตรงกลางปราสาทเป็นหลุมลึก จนทำให้บางส่วนพังลงมา ตอนนี้ก็เหลือแค่ตัวปราสาทที่เป็นก้อนอิฐ ชาวบ้านต้องเอาสังกะสีไปปิดไว้ด้านบนเวลาฝนตกจะได้ไม่พังลงมา ตอนอายุ 12-13 ปี ก็เคยขึ้นไป แต่ก็ไม่เห็นทับหลังแล้ว เจอแต่รอยขุด ภายในตัวปราสาทมีค้างคาวอาศัยอยู่เต็มไปหมด อยากให้ได้สมบัติของชาติกลับมาไว้ที่เดิม

ชาวบ้านยังบอกอีกว่า คนที่นี่จะจัดงานบูชาเซ่นไหว้ทุกปี เพื่อขอพรต่อเจ้ากรรมนายเวร เมื่อทำแล้วก็ทำให้หมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีพายุ ไม่มีโรคภัย รวมทั้งมีการจัดงานขึ้นศาลเจ้าปู่ บวงสรวงช่วงหลังสงกรานต์ด้วย ซึ่งข่าวการพบทับหลังปราสาทเขาโล้น ถือเป็นความหวังของชาวตาพระยา ที่อยากจะให้ได้กลับคืนมา และเห็นกับตาอีกสักครั้งหนึ่ง ส่วนตัวสิงโตที่หายไปนั้น ทราบว่า ถูกนำไปเก็บไว้ในบ้านของบุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์ในปัจจุบันรายหนึ่งด้วย

ขณะที่ นายพรพงศ์ เสาวคนธ์ นายก อบต.ทัพราช กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้กรมศิลปากรเร่งมาผลักดันให้มีการบูรณะให้เสร็จสิ้น เนื่องจากมีการขึ้นทะเบียนไว้ต่อกรมศิลปากรแล้ว ทำให้ท้องถิ่นไม่สามารถเข้ามาดำเนินการอะไรได้เลย ชาวบ้านต้องการหลังคาคลุมปราสาท จึงมาสร้างศาลาไว้ชั่วคราวเพื่อกันไม่ให้ตัวปราสาทพังลงมา เมื่อสอบถามไปที่กรมศิลปากรก็แจ้งว่า หลังบูรณะปราสาทสด๊กก๊อกธม เสร็จแล้ว ก็จะบูรณะปราสาทอื่นๆ ตามคิวต่อไป

อย่างไรก็ตาม สำหรับบริเวณปราสาทเขาโล้น คาดว่ามีอายุกว่า 1,000 ปี เนื้อที่ด้านบนประมาณ 2 ไร่ บริเวณโดยรอบอีกประมาณ 100 ไร่ ถูกขึ้นทะเบียนไว้ต่อกรมศิลปากร แต่ยังไม่มีการบูรณะ ทำให้มีบางส่วนของปราสาทพังถล่มลงมา ชาวบ้านจึงไปก่อสร้างศาลาป้องกันไว้ และนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานไว้ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ และประกอบพิธีกรรม ในช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา โดยเฉพาะเทศกาลตักบาตรเทโว ซึ่งมีการจัดขึ้นบนปราสาททุกปี