xs
xsm
sm
md
lg

บ้านโนนสวรรค์…บุรีรัมย์รวมกลุ่มปลูกผักผสมผสานไร้สารพิษ สร้างรายได้เสริมเดือนละหมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโนนสวรรค์ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักผสมผสานปลอดสารพิษ โดยใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ในท้องถิ่น สร้างรายได้เสริมกับสมาชิกเดือนละกว่าหมื่นบาท วันนี้ ( 22 พ.ค.)
บุรีรัมย์ - กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโนนสวรรค์ อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักผสมผสานปลอดสารพิษบริโภคลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและขาย โดยใช้น้ำหมักชีวภาพและปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ที่หาได้จากท้องถิ่น ทั้งนำความรู้จากภาครัฐทำชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอย ไตรโคเดอร์มา ฮอร์โมนไข่กำจัดศัตรูพืชใช้เอง มีสมาชิก 33 คน เผยสร้างรายได้เสริมให้สมาชิกเดือนละกว่าหมื่นบาท

วันนี้ (22 พ.ค.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโนนสวรรค์ ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ รวมกลุ่มสมาชิกปลูกพืชผักแบบผสมผสานปลอดสารพิษในที่สาธารณประโยชน์ที่รกร้างว่างเปล่ากว่า 40 ไร่ โดยใช้น้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ที่หาได้จากท้องถิ่น ทั้งได้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการบริหารจัดการกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้

ปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 33 คน มีการแบ่งพื้นที่สำหรับปลูกผักคนละ 1-2 งาน ส่วนพืชผักที่ปลูกจะเน้นปลูกตามฤดูกาลสามารถเก็บผลผลิตได้ทุกวัน เช่น ข้าวโพด ดอกขจรหรือสลิด หน่อไม้ฝรั่ง กล้วย พริก มะนาว และพืชผักสวนครัวอีกหลายชนิด

สำหรับพืชผักที่ปลูก นอกจากชาวบ้านจะเก็บผลผลิตไปบริโภคเพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนแล้ว ยังได้เก็บไปขายตามตลาดนัด ถนนคนเดินเซาะกราว และยังมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงหมู่บ้าน สามารถสร้างรายได้ให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกเฉลี่ยเดือนละกว่า 10,000 บาทอีกด้วย ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เสริมหลังทำนาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานภาครัฐ ทั้งอำเภอ เกษตรอำเภอ เทศบาลตำบลบ้านด่าน และอีกหลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนส่งเสริมทั้งเรื่องระบบน้ำใต้ดินสำหรับใช้หล่อเลี้ยงพืชผัก สร้างโรงเรือน และให้ความรู้เกี่ยวกับการทำชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอย ไตรโคเดอร์มา และฮอร์โมนไข่ แก่เกษตรกรเพื่อใช้สำหรับกำจัดศัตรูพืชได้ด้วยตัวเอง

นางทองปาน กระจางจิตร์ อายุ 51 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารบ้านโนนสวรรค์ กล่าวว่า เดิมชาวบ้านมีอาชีพทำนาเป็นหลัก หลังจากทำนาไม่มีอาชีพอื่นต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่หลังจากมีการก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารเมื่อปี 2555 เริ่มแรกมีชาวบ้านเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกเพียง 8 ราย แต่พอประสบผลสำเร็จมีรายได้จากปลูกพืชผักขายก็มีชาวบ้านเข้ามาร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น ปัจจุบันจำนวน 33 ราย

นอกจากสมาชิกจะมีรายได้จากการปลูกผักปลอดสารขายเดือนละกว่าหมื่นบาทแล้ว ยังเป็นการสร้างความสามัคคีให้ชาวบ้านในชุมชนและสร้างความอบอุ่นให้คนในครอบครัว เพราะไม่ต้องอพยพไปขายแรงงานต่างถิ่นเหมือนเมื่อก่อน

ด้านนางบังอร อัปปะมะโต อายุ 43 ปี หนึ่งในสมาชิก บอกว่า เดิมมีรายได้จากการทำนาเพียงอย่างเดียวทำให้ไม่เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว แต่หลังจากสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกผักปลอดสารเมื่อปี 2556 ก็ทำให้มีรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวเฉลี่ยเดือนละกว่าหมื่นบาท ทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนโดยการเก็บผลผลิตที่ปลูกไปบริโภคได้อีกด้วย

นอกจากจะได้รวมกลุ่มปลูกผักขายแล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีที่ปลอดภัยที่สามารถทำใช้เองได้อีกด้วย ปัจจุบันครอบครัวก็มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น