xs
xsm
sm
md
lg

ศุลกากรหนองคายรวบอีก 6 สาวไทยแก๊งอุ้มบุญขณะกลับจากลาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย รวบชายคนขับรถพาหญิงสาว 6 คน กลับจากประเทศลาว พร้อมถังไนโตรเจนเปล่า กล่องโฟมบรรจุหลอดทรงกรวย กล้องจุลทรรศน์ จี้สอบจนยอมรับสารภาพ รับจ้างจากคนจีนผ่านตัวแทนคนไทยให้ไปฝังตัวอ่อนอุ้มบุญที่ฝั่งลาว ข้ามไป 3 วัน แต่ตรวจร่างกายไม่ผ่านจึงอดฝัง ศุลกากรเผยความผิดยังไม่ปรากฏ ไม่มีการนำเชื้อตัวอ่อนเข้าประเทศ เปรียบเทียบปรับคนขับรถ แล้วปล่อยตัวทั้งหมดกลับกรุงเทพฯ



เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (20 พ.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย นายสมบัติ ฆ้อนทอง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ สีขาว ทะเบียน 3 กส 8296 กรุงเทพมหานคร ขณะขับเข้ามาจากประเทศลาว

โดยมี นายนิคม สีมารัตน์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/25 ถ.เชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เป็นคนขับ มีหญิงสาว 6 คน อายุระหว่าง 25-34 ปี นั่งโดยสารมาในรถจนเต็ม

ตรวจสอบภายในรถพบถังไนโตรเจนเปล่า 1 ใบ ไม่มีความเย็นหลงเหลืออยู่ กล่องโฟมปิดเทปกาวแน่นหนา เปิดดูพบว่าภายในมีหลอดพลาสติกรูปทรงกรวย ขนาด 2 เซนติเมตร จำนวน 42 หลอด บรรจุในกล่อง 1 กล่อง ด้านบนปิดแถบพลาสติกเขียนตัวอักษร yy / tj / yg แต่ละหลอดระบุวันที่ไว้ด้วย เช่น 18/5/17 กล้องจุลทรรศน์ 1 ตัว พร้อมเครื่องสำรองไฟ 1 เครื่อง

เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้แยกสอบสวนอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งตอนแรกต่างคนต่างให้การขัดแย้งกัน ข้อมูลไม่ตรงกัน ตรวจสอบหนังสือเดินทางหญิงสาวบางคนเพิ่งเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบสมุดบันทึกเล่มเล็กอยู่ในกระเป๋าสะพาย น.ส.เอ (นามสมมติ) มีการจดบันทึกรายชื่อผู้หญิง 7 คน ที่ทำการใส่ตัวอ่อน และผลการใส่ตัวอ่อนว่าใครใส่แล้วติด หรือใส่แล้วหลุดเป็นหลักฐานไว้ด้วย

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวภายหลังทำการสอบสวนจนได้ข้อมูลชัดเจนแล้วว่า หลังจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.60 ที่ผ่านมา ศุลกากรหนองคาย ได้จับกุมชายคนหนึ่งขณะจะนำถังไนโตรเจนภายในบรรจุเชื้ออสุจิเดินทางออกนอกประเทศ จนสืบทราบว่า มีขบวนการอุ้มบุญในประเทศไทยไปใช้สถานที่ในประเทศเพื่อนบ้าน

ซึ่งระยะแรกยังเข้าใจว่าเป็นการให้หญิงต่างชาติเป็นคนฝังตัวอ่อน หรืออุ้มบุญ แต่ในครั้งนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ขบวนการอุ้มบุญนี้ใช้ผู้หญิงไทยเป็นหลัก

จากข้อมูลที่ได้พบว่า มี Mr.RAN ZHAO (นายรัน ชาว) ชาวจีน อายุ 35 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นคนว่าจ้างทุกคน ตั้งแต่ว่าจ้าง นายนิคม ให้ขับรถรับส่ง ว่าจ้าง น.ส.เอ ให้ช่วยหาผู้หญิงไทยที่มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง และทุกคนมีสามี มีลูกแล้ว ให้มาทำการฝังตัวอ่อน ทำการอุ้มบุญ โดยเจรจาค่าอุ้มบุญให้ตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท

หลังคลอดเสร็จก็จะได้เงินค่าจ้างทั้งหมด ซึ่งมีการเดินทางไปฝังตัวอ่อนแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 4 มี.ค.60 และวันที่ 26 มี.ค.60

ส่วนครั้งนี้หญิงสาวทั้ง 6 คน เดินทางไปประเทศลาวตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.60 โดยนายจ้างชาวจีนออกค่าเครื่องบินจากกรุงเทพฯ มาสนามบินอุดรธานี ทั้งขาไปและขากลับ รวมทั้งค่าโรงแรมที่ฝั่งลาวให้ทั้งหมด จากนั้นนายนิคม มารับหญิงสาวทั้ง 6 คน ไปเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แล้วทำการตรวจร่างกายที่สถานบริการแห่งหนึ่งในนครหลวงเวียงจันทน์ มีคนไม่ผ่านการตรวจร่างกาย 2 คน อีก 3 คนมีปัญหาขัดข้องบางประการ ทำให้ไม่มีใครได้ฝังตัวอ่อน

ส่วน น.ส.เอ เป็นคนประสานงาน เมื่อทำงานไม่สำเร็จจึงได้เดินทางกลับประเทศไทย ประกอบกับถังไนโตนเจนที่พบเป็นถังเปล่า ไม่มีเชื้ออสุจิ ตัวอ่อนอยู่ภายใน และยังไม่ทราบชัดเจนว่าภายในหลอดรูปทรงกรวยเป็นอะไร ถือว่าความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558 ยังไม่สำเร็จ ศุลกากรจึงทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับ นายนิคม ในฐานความผิดลักลอบหนีศุลกากร ทำการเปรียบเทียบปรับ 89,880 บาท ยึดของกลางทั้งหมด แล้วปล่อยตัวทุกคนไป

ส่วนเอกสารสมุดบันทึกจะส่งให้ตรวจกองปราบไว้เป็นหลักฐานประกอบ อาจใช้ร่วมกับคดีในครั้งที่แล้วก็ได้

ขณะเดียวกัน น.ส.บี (นามสมมติ) ให้ข้อมูลว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส.เอ ให้มาฝังตัวอ่อนและอุ้มบุญ ตนต้องการเงินจึงได้ปรึกษาสามีจนตกลงทำ พอเป็นประจำเดือนก็จะโทร.บอก น.ส.เอ หลังจากนั้น น.ส.เอ ก็จะให้กินยาบำรุงไข่เป็นแผง เช้าเย็น เป็นเวลา 10 วัน แล้วจึงเดินทางไปประเทศลาว เมื่อไปถึงก็เข้าพักที่โรงแรม ฝนตกทั้งวันไม่ได้ออกไปไหน หากฝังตัวอ่อนสำเร็จจนคลอดก็จะได้เงิน 300,000 บาท

ด้าน น.ส.ก้อย (นามสมมติ) กล่าวว่า ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อก็ปรึกษาสามี สามีไม่ยอมให้ทำ แต่ตนก็ให้เหตุผลว่าบ้านจนเงินไม่พอเลี้ยงลูก สามีจึงยอม ตนจึงได้เดินทางมาพร้อมกับทุกคน แต่ตนตรวจร่างกายไม่ผ่านจึงไม่ได้ฝังตัวอ่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น