ประจวบคีรีขันธ์ - หลายหน่วยงานใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธินกขมิ้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กแล้ว พบไม่มีการจดทะเบียนดำเนินงานอย่างถูกต้อง เบื้องต้น สั่งให้ยุติบทบาทการเป็นมูลนิธิฯ พร้อมเตรียมเสนอผู้ว่าฯ สั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เนื่องจากยังไม่มีผู้ดูแล
วันนี้ (20 พ.ค.) นางฉวีวรรณ สัญญา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน นายไพศาลแต้มช่วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธินกขมิ้น หมู่บ้านเขาเต่า ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีหนังสือสั่งการให้ตั้งคณะกรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ เนื่องจากมีผู้ปกครองเด็กบางรายได้เข้าแจ้งความเอาผิดต่อผู้ดูแลเด็กในมูลนิธิฯ หลังเกิดการกระทำอนาจารเด็กเกิดขึ้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งนักสังคมสงเคราะห์เทศบาลเมืองหัวหิน ได้เข้าพูดคุยกับเด็กหญิงที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ เพื่อรับทราบรายละเอียดต่างๆ แล้ว และยังพบว่า มูลนิธิแห่งนี้มีเด็กหญิงที่อยู่ในความดูแลทั้งสิ้น 11 คน โดยมีอายุมากกว่า 18 ปี 3 คน และอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 8 คน ซึ่งทั้งหมดจะอาศัยอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารมูลนิธิฯ ที่จัดแบ่งเป็นล็อก จำนวน 3 ล็อก
ส่วนชั้นบนอาคารขนาด 3 ชั้น จำนวน 2 หลัง ซึ่งมีทางเดินเชื่อมกัน มูลนิธิฯ แจ้งว่าได้เปิดเป็นห้องพักสำหรับผู้บริจาค โดยมีซิสเตอร์เอสเธอร์ เป็นผู้ดูแลแขกชาวต่างชาติ ขณะที่พ่อป้อม และแม่หนิง ซึ่งมีหน้าที่ดูแลเด็กๆ ภายในมูลนิธิฯ หลังเกิดเหตุร้องเรียนจนตกเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ ได้พากันย้ายออกจากมูลนิธิฯ ปัจจุบันจึงมีเพียงแม่บ้าน และคนงานบางส่วนเท่านั้น โดยมูลนิธิฯ แจ้งว่าอยู่ระหว่างรับสมัครผู้ดูแลคนใหม่
ด้าน นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า นอกจากการพูดคุยกับเด็กๆ ในมูลนิธิฯ แล้ว คณะทำงานจะได้เข้าพูดคุยกับ ซิสเตอร์เอสเธอร์ ถึงการตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับการจัดตั้งมูลนิธิฯ หลังทราบว่า มีการจดทะเบียนถูกต้องเฉพาะที่มูลนิธิฯ สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ เท่านั้น แต่สาขาอำเภอหัวหิน ยังไม่มีการจดทะเบียน คณะทำงานจึงแนะนำให้รีบดำเนินการให้ถูกต้อง
“จากการตรวจสอบพบว่า เด็กในมูลนิธิฯ ล้วนเป็นเด็กหญิงยังไม่มีใครดูแล เนื่องจากผู้ดูแลถูกพักงาน และย้ายออกไปแล้ว คณะกรรมการจึงมีความเป็นห่วงในสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของเด็ก และจะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก โดยสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเป็นการชั่วคราว เพื่อจะได้นำเด็กทั้งหมดไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอการตรวจสอบมูลนิธิแห่งนี้ให้ชัดเจนต่อไป”
นายอำเภอหัวหิน ยังกล่าวอีกว่า หากมูลนิธิฯ มีการขอจดทะเบียน เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง และหากพิจารณาแล้วเห็นว่ามูลนิธิฯ มีการดำเนินงานถูกต้องก็สามารถรับเด็กกลับไปดูแลได้เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะพิจารณาในส่วนประกอบอื่นๆ ทั้งการใช้อาคารว่าผิดประเภทหรือไม่ เนื่องจากมีลักษณะของการแบ่งห้องพักคล้ายโรงแรม และการตรวจสอบสถานที่หรือห้องพักว่าเหมาะสมต่อความเป็นอยู่ของเด็กหรือไม่
ส่วนความคืบหน้าด้านการเำเนินคดีต่อพ่อป้อม นั้นพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยภรรยาได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล เป็นเงินสด 120,000 บาท โดยศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยนัดรายงานตัวนัดแรกวันที่ 31 พฤษภาคมนี้