ใช้เวลาว่างหลังเกษียณ…อดีตครูบุรีรัมย์ทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายเดือนละหมื่น แจกฟรี ร.ร.

บุรีรัมย์- อดีตครูวัย 64 ปี ชาวบุรีรัมย์ ใช้เวลาว่างหลังเกษียณหาเก็บก้านมะพร้าวแห้งในหมู่บ้านที่หลายคนเห็นไร้ค่ามาทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายสร้างรายได้เสริมเดือนละหมื่นบาท ทั้งยังแจกฟรีให้โรงเรียนหลายแห่งที่เคยสอนด้วย เผยอยากเป็นตัวอย่างให้ข้าราชการเกษียณและผู้สูงอายุยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ทำคุณประโยชน์ให้สังคมได้

วันนี้ (19 พ.ค.) นายชาญชัย จำปาหอม อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการครู ตำบลบ้านด่าน อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เลือกงานไม่นิ่งเฉย ใช้เวลาว่างหลังเกษียณอายุราชการทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายเป็นอาชีพและรายได้เสริม โดยนำความรู้จากการเข้าร่วมอบรมการทำหัตถกรรมจักสานสมาคมผู้สูงอายุเทศบาลตำบลบ้านด่านมาประยุกต์

ส่วนวัสดุหาได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะก้านมะพร้าวที่หลายคนมองว่าไร้ค่า สามารถหาได้ในหมู่บ้านโดยไม่ต้องลงทุนซื้อ ส่วนไม้ไผ่ที่นำมาทำเป็นด้ามไม้กวาดก็หาได้จากท้องถิ่นเช่นกัน ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องซื้อมีแค่เพียงเชือกไนลอน และตะปูที่ใช้ในการตอกยึดและถักเท่านั้น

สำหรับขั้นตอนการทำไม้กวาดทางมะพร้าวไม่ได้ยุ่งยาก เริ่มต้นจากการนำก้านมะพร้าวมาเหลาเอาใบออก แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นนำก้านมะพร้าวมามัดเป็นกำๆ กำละ 10 อัน ให้ได้ 30-40 มัด แล้วนำมาถักเรียงกัน จากนั้นนำมาประกอบใส่ด้ามไม้ไผ่ที่เหลาเตรียมไว้ แล้วมัดด้วยลวดหรือหนังยางอีกรอบตอกตะปูยึดให้แน่น ขั้นตอนสุดท้ายใช้เชือกไนลอนถักร้อยขึ้น-ลงให้แน่นหนามากขึ้นและดูสวยงามด้วย

ไม้กวาดที่ทำเสร็จแล้วจะใส่รถเข็นตระเวนขายในหมู่บ้านและส่งขายตามตลาด จนปัจจุบันมีลูกค้าประจำมารับซื้อถึงบ้าน จนบางช่วงทำไม่ทันเพราะทุกอย่างทำเองคนเดียวจึงทำตามแรงที่มี แต่ลูกค้าจะสั่งจองไว้แล้วมารับทีหลัง

ด้วยความขยันและไม่หยุดนิ่งของครูชาญชัยที่ใช้เวลาว่างหลังเกษียณทำไม้กวาดขาย ทำให้มีรายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 8,000-10,000 บาท

นอกจากทำเป็นอาชีพและรายได้เสริมหลังเกษียณแล้ว ครูชาญชัยยังได้นำไม้กวาดทางมะพร้าวที่ทำไว้ไปมอบฟรีให้โรงเรียนหลายแห่งที่ตัวเองเคยสอนด้วย ทั้งยังพร้อมจะสละเวลา แรงกาย แรงใจ นำความรู้ที่มีไปถ่ายทอดให้ผู้ปกครองและนักเรียนที่สนใจได้นำไปทำเป็นอาชีพอีกด้วย

ครูชาญชัยบอกอีกว่า ที่ใช้เวลาว่างหลังเกษียณมาทำไม้กวาดทางมะพร้าวขายเพราะไม่อยากอยู่เฉย ทั้งยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ และยังได้ออกกำลังกายด้วย ที่สำคัญยังอยากทำตัวเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการที่เกษียณอายุราชการหรือผู้สูงอายุ ว่าแม้จะเกษียณหรือเป็นผู้สูงอายุแล้วแต่ยังสามารถช่วยเหลือครอบครัว และทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมได้