บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.พุทไธสง บุรีรัมย์ เร่งหาข้อมูลเบาะแสล่าตัวสาวใหญ่ที่ออกอุบายหลอกพ่อเฒ่าพิการวัย 70 ปี อาชีพหาของเก่าขายไปมีเพศสัมพันธ์ในป่าละเมาะ ทั้งให้ความหวังจะคบหาอยู่กินด้วยกันและให้ดูดนมเกิดอาการเคลิ้มก่อนลงมือปลดสร้อยทอง ลอตเตอรี่และเงินสดที่เก็บสะสมจากเบี้ยยังชีพคนพิการร่วม 3 หมื่นหนีลอยนวล
วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานรายงานความคืบหน้ากรณีนายสำเภา หรือเบิ้ม เตียงไธสง อายุ 70 ปี พ่อเฒ่าพิการนิ้วมือด้วนทั้งสองข้าง มีอาชีพหาของเก่าขาย ที่ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกสาวใหญ่อายุประมาณ 40-45 ปี หลอกไปมีเพศสัมพันธ์ในป่าละเมาะด้านทิศเหนือของบึงสระบัวใน ต.พุทไธสง อ.พุทไธสง ก่อนอาศัยช่วงชุลมุนปลดเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้นที่สวมอยู่ในคอ รวมถึงลอตเตอรี่ที่เก็บไว้ในกระเป๋า 18 ใบ และเงินสดที่เก็บสะสมจากเบี้ยผู้พิการอีกจำนวน 7,700 บาท รวมทั้งสิ้นเกือบ 30,000 บาทแล้วขับขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้เรียกนายสำเภา ผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาข้อมูลเบาะแสและหลักฐานในการติดตามตัวสาวใหญ่คนที่ก่อเหตุมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบสวนนายสำเภา พ่อเฒ่าผู้เสียหายให้ข้อมูลโดยละเอียดว่า ขณะที่ตนเดินทางมาซื้อของในตลาด อ.พุทไธสง ได้มีหญิงสาวอายุประมาณ 40-45 ปี สูงประมาณ 150 เซนติเมตร รูปร่างอ้วน ผิวดำแดง สวมกางเกงยีนส์เก่า สวมเสื้อด้านในสีดำ และสวมเสื้อคลุมทับ ได้เดินเข้ามาตีสนิททำทีเหมือนรู้จักกับตนมานาน จากนั้นชักชวนตนไปร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งตอนแรกปฏิเสธ แต่หญิงคนดังกล่าวยังขี่จักรยานยนต์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 859 ไม่ทราบหมวดอักษรและยี่ห้อตามตื๊อตลอด และได้ชักชวนตนไปร่วมหลับนอน จนหลงกลยอมนั่งซ้อนจักรยานยนต์ไปด้วย
เมื่อขับไปถึงป่าละเมาะริมบึงสระบัว หญิงคนดังกล่าวถอดเสื้อผ้าออก แต่อวัยวะเพศตนเองไม่แข็งตัวจึงบอกให้ตนดูดนม เมื่อดูดนมไปสักพักมีอาการเคลิบเคลิ้มไม่รู้สติ มารู้ตัวอีกครั้งหญิงคนดังกล่าวขับจักรยานยนต์หลบหนีไปแล้ว เมื่อมาสำรวจทรัพย์สินในกระเป๋าและสร้อยคอทองคำที่สวมใส่อยู่ได้หายไปจึงได้เข้าแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามตัว
ตาสำเภาบอกอีกว่า ที่ยอมไปกับหญิงคนดังกล่าวเพราะได้พูดจาหว่านล้อมและให้ความหวังว่าหากถูกอกถูกใจกันอาจจะคบหากันอยู่กินด้วยกัน เพราะตนไม่มีภรรยาและลูก แต่ไม่คิดว่าจะมาถูกหลอกฉกเอาทรัพย์สินที่ตนเองเก็บสะสมไว้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งหาข้อมูลเบาะแส ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่หญิงคนดังกล่าวขับรถผ่าน เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่าถูกผู้ก่อเหตุแต้มยาที่นมจนทำให้เกิดอาการเคลิ้มนั้น เบื้องต้นสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเป็นการมอมยา เพราะผู้เสียหายรู้สึกตัวตลอด น่าจะเป็นการฉวยโอกาสลงมือช่วงชุลมุนมากกว่า