ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจหัวหิน นำหมายศาลจับกุมพ่อบ้านมูลนิธิเด็กชื่อดังที่ถูกกล่าวหากระทำอนาจารเด็กหญิง 12 ปี เบื้องต้น ให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างเป็นคนรักเด็กมักจะหอมแก้มลูกตนเอง และเด็กที่บ้านเป็นประจำ ขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ก็ลงตรวจสอบมูลนิธิดังกล่าว พบยังไม่จดทะเบียนตามกฎหมาย ภายหลังเกิดเรื่องก็ปิดทำการ
จากกรณีผู้ปกครองพาเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าแจ้งความตำรวจสถานีตำรวจภูธรหัวหิน หลังจากทราบว่า เด็กถูกพ่อบ้านคนดูแลมูลนิธิเด็กชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระทำอนาจาร โดยก่อนหน้านี้ พบว่ามีเด็กหญิงวัยไล่เลี่ยกันก็ถูกกระทำลักษณะเดียวกัน เมื่อประมาณ 2 ปีกว่า ซึ่งภายหลังแม่เด็กทราบเรื่องก็มาพาตัวเด็กหญิงไปแจ้งความ และพาตัวออกจากการดูแลของมูลนิธิทันที
ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ค.) พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ สืบหยิ่ว สารวัตร สอบสวน นำหมายศาลจังหวัดหัวหิน ลงวันที่ 17 พฤษภาคม 2560 เข้าควบคุมตัว นายกัมปนาท หรือป้อม ผุยอุทธา อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ประจำองค์กรพัฒนาเอกชนที่มูลนิธิเด็กชื่อดังแห่งหนึ่งในชุมชนเขาเต่า เขตเทศบาลหัวหิน ในข้อทำอนาจารเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน โดยในชั้นพนักงานสอบสวน นายป้อม ยังให้การปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างสอบปากคำ นายป้อม ให้การว่า เป็นคนรักลูกตนเอง และเด็กทุกๆ คนเหมือนลูก เด็กมักจะหอมแก้มลูกตนเอง และเด็กในความดูแลเป็นประจำ เมื่อทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีต่อตนในข้อหากระทำอนาจาร ทางสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิได้สั่งพักงานตน และออกไปอยู่ข้างนอก โดยยอมรับว่ายังกลับมาที่มูลนิธิแห่งนี้ เนื่องจากเด็กโทรศัพท์ไปหาบอกว่าคิดถึงพ่อป้อม พ่อป้อมหายไปไหน ทำให้ตนยังคงวนเวียนไปมาที่มูลนิธิแห่งนี้ และยืนยันจะสู้คดี
ด้าน พ.ต.อ.สิทธิชัย กล่าวว่า มูลนิธิเด็กดังกล่าวมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และมีสาขาต่างจังหวัดอีกหลายแห่งทั่วประเทศ สำหรับ อ.หัวหิน มี นายกัมปนาท เป็นผู้ดูแลเด็กหญิงประมาณ 12 คน เปิดมาประมาณ 5 ปี ส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า เด็กเร่ร่อน เด็กด้อยโอกาส และเด็กมีปัญหาทางครอบครัว ทุกคนจะเรียกนายกัมปนาท ว่า “พ่อป้อม” ในของคดีวานนี้ ผู้ปกครองได้พาเด็กหญิงมาแจ้งความว่าถูกนายป้อม กระทำลวนลามอนาจาร โดยเด็กหญิงรายนี้ไม่ได้เป็นเด็กของมูลนิธิ แต่เป็นลูกของแม่บ้านมาฝากให้นอนค้างกับลูกของนายป้อม เนื่องจากแม่เด็กต้องไปทำธุระ แต่ช่วงประมาณตี 3 ขณะนอนหลับอยู่ก็ถูกนายป้อม เข้าไปหอมแก้ม ถลกเสื้อขึ้นเพื่อทำอนาจาร ส่วนอีกรายก่อนหน้านี้ เป็นเด็กหญิงวัยไล่เลี่ยในความดูแลของมูลนิธิ ให้การว่าถูกนายป้อม กระทำอนาจารขณะนอนหลับคลุมโปงอยู่ โดยนายป้อม ได้เข้าไปดึงผ้าห่ม และจับก้น ซึ่งกรณีนี้เกิดขึ้นมานานประมาณ 2 ปี จะต้องตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย คดีอยู่ในความสนใจของสังคม และเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับผู้เยาว์ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก
สำหรับในวันนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องศาลภายในวันพรุ่งนี้ โดยข้อหาทำอนาจารเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี รวมทั้งจะต้อมีการไปตรวจสอบที่มูลนิธิฯ เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามเด็กที่อยู่ในบ้านนั้น
ขณะเดียวกัน วันนี้ผู้สื่อข่าว พร้อมด้วย น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พร้อมด้วยผู้อำนวยการกองสวัสดิการและสังคม นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่มูลนิธิดังกล่าว แต่พบว่าปิดทำการ
น.ส.ไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า มูลนิธิดังกล่าวซึ่งเคยได้พูดคุยกับตัวแทนของมูลนิธินี้ พบว่า เป็นสาขาหนึ่งที่กระจายอยู่ตามต่างจังหวัด ยังไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหิน จะต้องร่วมกับหน่วยงานปกครองอำเภอหัวหิน และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการเข้ามาตรวจสอบ และให้ดำเนินการให้ถูกต้อง รวมทั้งจะต้องเข้ามาดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้