ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจอีกแล้ว! แม่ชาวชุมแพสุดทนเข้าร้องสื่อมวลชน ลูกสาวบุญธรรมวัย 5 ขวบถูกข่มข่มขืน เข้าแจ้งความตั้งแต่ต้นเดือน ม.ค. 60 ล่วงเลยมาแล้ว 5 เดือน คดีความไม่คืบ-จับคนร้ายไม่ได้ ทั้งที่ผลตรวจแพทย์ยืนยันถูกข่มขืนจริง ซ้ำเด็กยังระบุตัวคนร้ายได้ถูกต้อง อ้างพยานหลักฐานไม่พอ บอกให้พ่อแม่เด็กไปหาพยานบุคคลพยานแวดล้อมมาให้ตำรวจ
รายงานข่าวแจ้งว่า นางจันทร์เพ็ญ คำเสนา อายุ 45 ปี ชาวบ้านหนองโดน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้สื่อข่าว กรณีลูกสาวบุญธรรมวัย 5 ขวบ ถูกข่มขืนกระทำชำเราและหลังเกิดเหตุได้เจ้าแจ้งความต่อร้อยเวร สภ.ชุมแพไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา จนขณะนี้ล่วงเลยมาร่วม 5 เดือน แต่ตำรวจยังไม่สามารถนำคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ทั้งที่เด็กได้ยืนยันตัวคนร้ายอย่างชัดเจน
“ตำรวจอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอโดยเฉพาะพยานแวดล้อม และผลตรวจทางการแพทย์ที่ยืนยันว่า เด็กถูกข่มขืนจริงออกช้า ทำให้การทำสำนวนล่าช้าจึงไม่สามารถจับคนร้ายได้” นางจันทร์เพ็ญกล่าว และเล่าต่อว่า ลูกบุญธรรมของตน คือ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) อายุ 5 ขวบ เป็นลูกของหลานสาว แต่พ่อ-แม่แยกทางกัน ตนจึงขอนำมาเลี้ยงดูและรับเป็นบุตรบุญธรรม ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 60 ตนและสามีได้พาลูกสาวไปทำสวน แต่สามีได้พาลูกสาวเข้าไปเล่นในหมู่บ้านใกล้เคียงกัน โดยสามีได้ไปนั่งดื่มเหล้าร่วมกับเพื่อนๆ และญาติพี่น้อง โดยปล่อยให้ลูกสาววิ่งเล่นตามประสาเด็ก
กระทั่งวันที่ 16 ม.ค. 60 ลูกสาวได้เดินมาบอกว่าปวดที่อวัยวะเพศ ตนจึงไปที่ร้านขายยา พร้อมกับบอกเล่าอาการเจ็บของลูกสาวให้กับเภสัชกรประจำร้านขายยาฟัง หลังจากนั้นจึงพาไปให้หมอตรวจและหมอบอก ว่าอวัยวะเพศเด็กบวมคล้ายถูกข่มขืน จึงแนะนำให้ไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ชุมแพ พร้อมกับนำเด็กไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง
จากนั้นตำรวจ สภ.ชุมแพ ได้เรียกตนและสามีพร้อมกับลูกสาวไปให้ปากคำต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักคุ้มครองสิทธิ และอัยการ ลูกสาวก็ยืนยันว่าถูกข่มขืน และยืนยันตัวบุคคลได้ชัดเจนว่าใครเป็นคนลงมือทำ อย่างไรก็ตาม เวลาล่วงเลยมานานหลายเดือนจนป่านนี้ยังไม่มีความคืบหน้าของคดี
นางจันทร์เพ็ญเปิดเผยต่อว่า เมื่อตนสอบถามไปยังร้อยเวรเจ้าของคดีก็ได้รับคำตอบว่า หลังจากเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธจึงต้องปล่อยตัวไป ส่วนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุให้ทางพ่อแม่ของเด็กหามาเอง ส่วนใหญ่พยานแวดล้อมล้วนเป็นญาติของผู้ต้องหาเองทำให้ไม่มีใครยอมมาเป็นพยานบุคคลให้
นางจันทร์เพ็ญกล่าวต่อว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดีต่อผู้ต้องหารายนี้ให้ได้ไว้ที่สุด เพราะเป็นห่วงว่าจะไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกกับเด็กคนอื่นอีก ส่วนลูกสาวของตนหลังเกิดเหตุถูกล่วงละเมิดทางเพศก็มีอาการหวาดระแวง ก้าวร้าวและสมาธิสั้น ตนเห็นแล้วน่าสงสารเป็นอย่างมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องสุขภาพจิตของลูกสาวด้วย
ขณะที่ ร.ต.อ.ขัตติยะ พลดงนอก พนักงานสอบสวน สภ.ชุมแพ ร้อยเวรเจ้าของคดีให้เหตุผลว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนล่าช้าเพราะต้องรอพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะพยานแวดล้อม ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุไปสอบพยานแวดล้อมเลยสักครั้ง และรอผลตรวจของแพทย์ที่ยืนยันว่าเด็กถูกข่มขืนจริงหรือไม่ โดยผลตรวจเพิ่งส่งมาเมื่อต้นเดือนที่พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขั้นตอนการสอบสวน การสอบพยานดำเนินการเสร็จสิ้นหมดแล้ว เหลือแต่แจ้งให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาและสรุปสำนวนส่งอัยการ แต่เมื่อดูสำนวนแล้วพยานหลักฐานยังไม่แน่นมากพอ ยังขาดพยานแวดล้อม จึงอยากให้ทางพ่อแม่ของเด็กหาพยานแวดล้อมมาให้ปากคำต่อตำรวจเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้สำนวนมีน้ำหนักมากพอที่จะเอาผิดต่อผู้ต้องหาได้