ชันนาท - ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยนาท เข้าจับนายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง กับพวก ตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (17 พ.ค.) ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดชัยนาท สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยรักษาความสงบที่ 3 ประจำพื้นที่ จ.ชัยนาท เข้าจับกุม นายทวีศักดิ์ วีระศักดิ์ อายุ 52 ปี นายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง นายทวีศักดิ์ พุทธชาติ อายุ 67 ปี ผู้ช่วยนายกสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง และนางกนิษฐา ทับงิ้ว อายุ 44 ปี ประธานสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดชัยนาท ได้ที่ปั๊มน้ำมันริมถนนวัดสิงห์-เขาตะพาบ หมู่ที่ 1 ต.หนองขุ่น อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยทั้ง 3 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชัยนาท ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
โดยในระหว่างที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท เพื่อทำประวัติ และสอบปากคำ ได้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเมื่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่ยอมให้ตำรวจทำประวัติ โดยอ้างว่า พวกตนไม่ได้ทำผิด จึงไม่ยอมรับทราบข้อกล่าวหา ท่ามกลางกองเชียร์ที่เป็นคณะกรรมการสมาคมชาวนาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 20 คน ที่เดินทางมาให้กำลังใจ และจะไม่ยอมให้ตำรวจดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น โดยตำรวจ และทหารพยายามพูดคุยทำความเข้าใจให้ผู้ต้องหา และกลุ่มกองเชียร์ทราบว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการจับกุมตามหมายศาลจังหวัดชัยนาท เนื่องจากมีประชาชนได้ไปแจ้งความว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาฉ้อโกง พร้อมทั้งนำหมายศาลมาให้ผู้ต้องหาดู แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน และกลุ่มกองเชียร์ กลับไม่รับฟัง พยายามโต้เถียงยื้อเวลาอยู่นานหลายชั่วโมง
แต่สุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารก็ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งไป สภ.สรรคบุรี เจ้าของคดีให้ดำเนินการสอบสวน โดย พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท ได้ติดตามไปควบคุมการดำเนินคดี จนกระทั่งในช่วงบ่ายวันนี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยนาท โดยมีกลุ่มกองเชียร์เดินทางไปให้กำลังใจผู้ต้องหาทั้งที่ สภ.สรรคบุรี และที่หน้าศาล จ.ชัยนาท จำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวไปสู้คดี โดยศาลพิจารณาให้ประกันตัวไปคนละ 90,000 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ประชาชนในจังหวัดชัยนาท จำนวน 11 ราย ได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.สรรคบุรี หลังถูกหลอกให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกโครงการคอนโดฟาร์ม โดยเสียค่าสมัครคนละ 850 บาท แต่กลับไม่ได้มีการดำเนินการโครงการแต่อย่างใด จึงแจ้งตำรวจให้ดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง
ด้าน พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า หลังจากที่มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากการหลงเชื่อในการชักจูงให้ทำการเกษตร ซึ่งเสียเงินค่าสมัครไม่มาก แต่ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน แล้วขออนุมัติศาลจังหวัดชัยนาท ออกหมายจับผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาได้ 3 ราย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนให้แก่ผู้ต้องหาได้รับทราบ หากสอบสวนแล้วมีความผิดเพิ่มขึ้น จะได้มีการแจ้งข้อหาให้ผู้ต้อวหาได้รับทราบ สำหรับพฤติการณ์คือ ผู้เสียหายแจ้งว่าได้มีการมาชักชวนให้ทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วมีการหลงเชื่อ และมีการมอบทรัพย์สินกัน ตรงนี้เป็นการหลงเชื่อ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สำหรับคดีนี้ผู้เสียหายแต่ละรายเสียค่าเสียหายไม่มาก อย่างไรก็ตาม จะมากหรือน้อยก็เสียหาย เมื่อประชาชนมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องดำเนินการให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เสียหาย หรือผู้ถูกกล่าวหา ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอพนักงานอัยการพิจารณาเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป