ฉะเชิงเทรา - รถยนต์กระบะขนแรงงานต่างด้าวซิ่งฝ่าสายฝนเสียหลักเสยท้ายรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ดับคาที่ 5 ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ขณะตำรวจเชื่อคนขับกระบะใช้ความเร็ว และพยายามเร่งเครื่องแซง แต่ถนนลื่นทำตัวรถเซถลาเสียหลักพุ่งชนด้านท้ายรถบรรทุกพ่วง
วันนี้ (17 พ.ค.) ร.ต.อ.สงบ โคตรโย รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุมีรถยนต์กระบะพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวนหลายราย ตัวรถกีดขวางเส้นทางการสัญจรจน ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนักยาวกว่า 10 กม.ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกพรำลงมาไม่หยุด เหตุเกิดบนถนนสาย 331 กบินทร์บุรี-สัตหีบ ห่างจากบริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจรบ้านนาน้อย (แยกเบส) ไปประมาณ 1 กม. ระหว่างหลัก กม.ที่ 126-127 พื้นที่ ม.12 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม ฝั่งมุ่งหน้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะแบบแค็บสีดำ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า หมายเลขทะเบียน บพ 7262 ฉะเชิงเทรา จอดในลักษณะเฉียงขวางลำอยู่บนช่องทางด้านซ้ายปิดช่องการจราจรไป 1 ช่องทาง สภาพตัวรถพังยับเยินทั้งคัน โดยมีรอยยุบ และฉีกขาดเปิดโล่งเป็นทางยาวจากทางด้านหน้าขวาไปจนถึงกลางตัวรถ มีผู้เสียชีวิตกระเด็นตกลงมานอนกองอยู่บนพื้นถนนที่ริมไหล่ทาง 2 ราย และเสียชีวิตติดคาซากรถ 3 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม ลำเลียงนำส่งไปยัง รพ.สนามชัยเขต จำนวน 2 ราย นำส่ง รพ.พนมสารคาม จำนวน 1 ราย
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตเกือบทั้งหมดนั้นเป็นชาวต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา โดยมี นายพงษ์พัฒน์ เนตรอำพร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 ม.1 ต.บางเกลือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคนขับเท่านั้นที่เป็นชาวไทย และเสียชีวิตติดคาอยู่ในซากรถ
ส่วนรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ รายแรกคือ นางเน็ต ชาวกัมพูชา อายุ 34 ปี อาการสาหัสไม่รู้สึกตัว ถูกนำส่งต่อมารักษาตัวยัง รพ.พุทธโสธร (รพ.เมืองฉะเชิงเทรา) รายที่ 2 ด.ช.เดช ชาวกัมพูชา อายุ 2 ปี เป็นบุตรชายของนางเน็ต ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีเพียงบาดแผลถลอกตามร่างกาย ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ รพ.สนามชัยเขต รายที่ 3 คือ นายเด่ง ชาวกัมพูชา อายุ 22 ปี ถูกนำส่งไปรักษาตัวยัง รพ.พนมสารคาม มีบาดแผลฉีกขาดที่ใบหน้า ศีรษะแตก อาการไม่สาหัสมากนัก
ด้าน นายจีระวัฒน์ ภูครองทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ม.13 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี คนขับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หัวสีขาว หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-0980 อุบลราชธานี ทะเบียน หางพ่วง 70-3116 อุบลราชธานี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้ขับรถมาตามเส้นทางในเลนด้านซ้ายตามปกติ และไม่เห็นเหตุการณ์ ได้ยินเพียงเสียงดังตูมสนั่นอยู่ที่ด้านท้ายรถของหางพ่วงที่ขับมา
จึงได้นำรถเข้าจอดแอบข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 300 เมตร เมื่อลงมาตรวจสอบดูจึงพบว่า ที่ตัวรถด้านท้ายนั้นมีรอยยุบจากการถูกพุ่งชนจนเพลาล้อหลังแตกหลุดได้รับความเสียหาย โดยที่ล้อหลังทางด้านซ้ายได้ยุบเข้าไปเบียดอยู่กับเพลาล้อหลังแถวกลางจากทั้งหมด 3 เพลา โดยตนได้ขับรถบรรทุกแป้งมันสำปะหลังมาจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อที่จะนำไปส่งที่ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ก่อนมาประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายขึ้นดังกล่าว
ร.ต.อ.สงบ กล่าวว่า คาดว่า สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดจากฝนตกจนถนนลื่น เมื่อรถยนต์กระบะได้พยายามจะขับขึ้นแซงแต่อาจไม่พ้น หรือมีสิ่งกีดขวางติดรถคันด้านหน้า จึงได้หักรถกลับมาจนเกิดการเสียหลักชนท้ายเข้ากับรถบรรทุกพ่วงขึ้น ซึ่งรายละเอียดยังต้องรอการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
