ศูนย์ข่าวศรีราชา - เก้าอี้ร้อน รองนายกเมืองพัทยา นำทีมเจ้าหน้าที่ลุยเก็บขยะคลองนกยาง หลังเป็นข่าวพบขยะเกลื่อนไร้การเหลียวแล ด้านเมืองพัทยาเตรียมจัดการในส่วนการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยที่รุกล้ำ เบื้องต้น เดินหน้าจัดการห้องเช่าก่อน พร้อมติดตั้งป้ายห้ามทิ้งขยะ หากพบจับปรับทันที
วันนี้ (17 พ.ค.) นายวิเชียร พงษ์พาณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการรักษาความสะอาด สำนักสิ่งแวดล้อมกว่า 50 คน พร้อมด้วยอุปกรณ์การเก็บขยะ ลงพื้นที่จัดเก็บขยะบริเวณคลองนกยางนาเกลือ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีสภาพทรุดโทรมอย่างหนักจากการบุกรุกแผ้วถางแนวลำคลอง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และน้ำเน่าเสียจากการชำระล้างสิ่งสกปรกจากชุมชนที่ถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำโดยไม่สนใจต่อสภาพสิ่งแวดล้อม ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลต่อสภาพสิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศป่าชายเลนผืนสุดท้ายของเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก
นายวิเชียร พงศ์พาณิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวก็ตกใจ และไม่คิดว่าจะมีขยะเยอะมากมายขนาดนี้ที่บริเวณป่าโกงกาง โดยหลังทราบเรื่องก็ได้ประสานกับสำนักสิ่งแวดล้อมในการจัดส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการรักษาความสะอาด จัดส่งเจ้าหน้าที่มาทำการจัดเก็บขยะพื้นที่ดังกล่าวโดยด่วน ซึ่งในวันนี้พบว่าได้รับความร่วมมือจากฝ่ายรักษาความสะอาดส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมเก็บขยะเต็มอัตรา ทั้งนี้ หลังจากที่เมืองพัทยาทำการเก็บขยะออกจากพื้นที่ดังกล่าวออกไปจนหมดแล้ว จะได้มีการทำป้ายจากเมืองพัทยาติดตั้งเขตห้ามทิ้งขยะ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด คือ ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
นอกจากนี้ ในส่วนของระยะยาว ก็จะได้ดูในส่วนของการปลูกสร้างที่รุกล้ำคลองสาธารณะ ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวพบว่ามีมากถึง 110 ราย โดยพบว่าในส่วนของผู้ที่รุกล้ำเมืองพัทยาก็รับทราบเรื่องมาแล้วก่อนหน้านี้ และได้ดำเนินการขอความร่วมมือให้ประชาชนทั้ง 110 ราย ที่รุกล้ำ ย้ายออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว แต่เนื่องจากว่าผู้ที่อยู่อาศัยยังบริเวณดังกล่าวเป็นผู้ยากไร้ จึงได้มีการอุทธรณ์ พร้อมให้เมืองพัทยาหาพื้นที่ให้ชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว แต่เนื่องจากเมืองพัทยาเองก็ไม่มีที่ดินว่างเปล่าที่สามารถให้ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้ย้ายไปได้ จึงได้มีการชะลอเรื่องดังกล่าวออกไปก่อน
ซึ่งจากการสำรวจในวันนี้พบว่า มีการปลูกสร้างบ้านเช่าเป็นจำนวนมากในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเมืองพัทยาเองมองว่าเจ้าของบ้านไม่ได้เดือดร้อน แต่กลับเอาที่สาธารณะไปหากิน จึงจะได้มีแนวทางในการจัดการในส่วนของบ้านเช่าในบริเวณดังกล่าวก่อน ส่วนในเรื่องของผู้อยู่อาศัย 110 รายที่เหลือ จะได้รวมหาแนวทางออกร่วมกันต่อไป แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขอความร่วมมือผู้อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวทุกท่านในการให้ความร่วมมือในการรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะลงแหล่งน้ำลำคลอง ทั้งนี้จากการสำรวจขยะพบว่าเกิน 50% มาจากชุมชนที่อยู่อาศัยยังบริเวณดังกล่าว และจากนี้ไปหากพบมีการทิ้งขยะลงลำคลองอีก ทางเมืองพัทยาจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนจับปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดสูงสุดอย่างแน่นอน
ด้าน นายสุกิจ บ่ายคล้อย ผู้ก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์อ่าวนาเกลือ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมา กลุ่มอนุรักษ์เองก็ได้ลงพื้นที่ในการจัดกิจกรรมทำความสะอาดป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง แต่บริเวณดังกล่าวต้องยอมรับว่า เป็นแหล่งป่าโกงกางที่มีขยะเยอะมากจริงๆ ซึ่งทางกลุ่มเองเคยเข้ามาทำการเก็บขยะบริเวณดังกล่าวมาแล้ว แต่ก็พบว่าไม่นานขยะเหล่านี้ก็กลับเกิดขึ้นอีก ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยบริเวณดังกล่าวต่างบอกว่าไม่ใช่เป็นขยะที่เกิดขึ้นจากชุมชนตัวเอง แต่มากับน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน และมากองรวมกันที่บริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า ขยะส่วนใหญ่เป็นขยะที่เกิดจากชุมชน จากนี้ไปคงต้องมาร่วมกันสร้างจิตสำนึกในการรักที่อยู่อาศัย ในการไม่ทิ้งขยะลงคูคลองอีก ซึ่งการปลุกจิตสำนึกเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาอีก
