หนองคาย - สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลหนองคาย ผงะผ่าตัดคนไข้ชาวลาว พบเนื้องอกรังไข่ที่รังไข่ก้อนมหึมาหนัก 8 กิโลกรัม วัดขนาดยาวกว่า 33 เซนติเมตร เผยก่อนหน้านี้คนไข้นึกว่าอ้วนลงพุง แนะผู้หญิงหมั่นตรวจภายใน รู้เร็วรักษาได้ง่าย
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลหนองคาย นพ.พิสิฐ อินทรวงษ์โชติ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจบริการด้านการแพทย์, พญ.สุนิดา พรรณะ สูตินรีแพทย์ และ นพ.รัฐวิชญ์ สุนทร สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวผลการผ่าตัดเนื้องอกรังไข่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
พญ.สุนิดา พรรณะ สูตินรีแพทย์ กล่าวว่า ได้รับตัวคนไข้หญิงชาวลาว อายุ 45 ปี เจ็บป่วยมีอาการอึดอัดแน่นท้อง และมีลักษณะเหมือนคนตั้งครรภ์ 7 เดือน คนไข้คิดว่าตนเองอ้วนลงพุง ประจำเดือนมาปกติ แต่เมื่อแพทย์ตรวจร่างกายพบว่ามีลักษณะเป็นก้อนที่ถุงน้ำรังไข่ด้านขวา ตั้งแต่บริเวณหัวเหน่าไปจนเกือบถึงลิ้นปี่ เจาะเลือดหาค่ามะเร็งไม่พบ จึงได้นัดวันผ่าตัด แต่คืนวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมาคนไข้มีอาการปวดท้อง แพทย์จึงผ่าตัดฉุกเฉินพบว่าก้อนถุงน้ำรังไข่เนื้องอกด้านขวานั้นมีขนาดวัดได้ 33 เซนติเมตร น้ำหนัก 8 กิโลกรัม เป็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยผ่าตัดมา ส่วนรังไข่ด้านซ้ายมีก้อนเนื้อขนาด 10 เซนติเมตร ภายในยังเป็นเส้นขน และเส้นไขมันด้วย หลังผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีภาวะแทรกซ้อน คนไข้กลับบ้านตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมามีคนไข้เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกเป็นจำนวนมาก ร้อยละ 6 จะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้ โดยอาการบ่งชี้นั้นคนไข้จะมีทั้งอาการที่แสดงออกได้ชัดเจน คือ ปวดท้อง หรือไม่มีอาการเลย จนทำให้คนไข้นึกว่าตนเองไม่ได้เจ็บป่วย ทำให้เนื้องอกค่อยๆ พัฒนาเจริญเติบโตได้เร็ว สาเหตุหลักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ บางคนมีปัจจัยเสี่ยงจากการได้รับยาฮอร์โมน คนที่มีกรรมพันธุ์เป็นมะเร็ง จะมีปัจจัยเสี่ยงมากกว่าคนปกติ แต่ผู้หญิงทั่วไปมีความเสี่ยงทุกคน
นพ.รัฐวิชญ์ สุนทร สูตินรีแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีประจำเดือนมาไม่ปกติหรือมีความผิดปกติที่อุ้งเชิงกราน ควรเข้ารับการตรวจภายใน แม้ว่าจะไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็มีโอกาสพบความผิดปกติภายในร่างกายได้ โดยแพทย์จะมีเทคนิคการตรวจทำให้ทราบความผิดปกติรวมถึงสามารถตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ง่าย มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็สามารถตรวจพบได้และหากพบแล้วก็จะได้รักษาทันท่วงที
ด้าน นพ.พิสิฐ อินทรวงษ์โชติ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจบริการด้านการแพทย์ กล่าวว่า โรงพยาบาลหนองคายมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านให้บริการประชาชน เพื่อยกระดับการบริการและขีดความสามารถในการรักษาพยาบาลแก่คนไข้ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นที่ยอมรับในมาตรฐานและจรรยาบรรณของแพทย์ ขณะนี้โรงพยาบาลหนองคายอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาบริการพิเศษรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐไปในตัวด้วย